วัตถุมงคลกับการอธิษฐานจิตตั้งธาตุ
วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ที่เป็นระดับพระอริยะสงฆ์ขั้นสูงสามารถเอาไปอธิษฐานจิตตั้งธาตุกับตัวเราเองได้
ทำไมถึงต้องตั้งธาตุ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างยิ่ง
วัตถุมงคลที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆ
ที่ท่านอธิษฐานให้เรานั้น
โดยเฉพาะกับครูบาอาจารย์ที่เป็นระดับพระอริยะเจ้าขั้นสูงจริงๆ
จะมีพลังงานที่ประจุเอาไว้อย่างมหาศาล แต่บางทีคนธรรมดาๆ
ไม่สามารถที่จะดึงเอาพลังงานที่ซ่อนเอาไว้มาใช้ได้อย่างที่ต้องการ
เพราะของนั้นเป็นของดี ดีเกินกว่าที่คนธรรมดาจะใช้ เคยสังเกตไหม
ว่าวัตถุมงคลรุ่นเดียวกัน (อาจจะชิ้นเดียวกันด้วย)
ทำไมแต่ละคนที่ใช้ถึงได้รับผลที่ต่างกัน บางคนใช้แล้วรู้สึกดีมาก (ใช้ขึ้น)
แต่บางคนที่ใช้แล้วรู้สึกว่าร้อนก็มี ทั้งๆ ที่พระที่ทำเป็นพระสุปฏิปันโน
ไม่ใช่พระหรืออาจารย์สายมนต์ดำ..?? อาจมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักเชื่อว่า
บุคคลที่ใช้ขาดศีลธรรม หรือเอาไปใช้ในทางมิชอบ เช่น
เป็นบุคลที่ประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต สร้างความเดือดร้อน เสื่อมเสียให้กับสังคม
ผิดลูกเมียชาวบ้านฯลฯ วัตถุมงคลที่ใช้นอกจากใช้ไม่ได้ผลแล้ว กลับยังความเดือดร้อนมาสู่ตัวผู้นั้นอีก
เพราะพลังงานที่สถิตอยู่นั้น
เปรียบเหมือนตัวแทนความดีงามเป็นของดีที่เกิดจากบารมีของผู้บำเพ็ญเพียรภาวนามานับชาติไม่ถ้วน
จึงควรใช้ปัญญาพิจารณาดูจิตของตัวเราเองเสมอๆ ครับ
แต่ถึงกระนั้นคนธรรมดา
แม้ไม่ได้สร้างความประพฤติมิชอบก็ยังไม่สามารถดึงเอาพลังงานของวัตถุมงคลมาใช้ได้อย่างเต็มที่
เพราะพลังที่มีอยู่ถึงจะมากแต่ไหน ก็เอาออกมาใช้ได้ก็เพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
ของพลังที่มีอยู่เท่านั้น เคยได้ยินบ้างไหมว่า คนที่แขวนสมเด็จ หรืออาจจะเป็น
แขวนพระเบญจภาคียังโดนของเข้าได้ (แต่อาจจะไม่ถึงกับหนัก) โดยเฉพาะกับนักไสยศาสตร์ที่ได้ฌานสูงๆ
หรือพวกที่เป็นมนต์ดำบางประเภท (ใช่..บางท่านอาจว่า มันเป็นเรื่องของกรรมเก่า
อันนั้นมันก็ไม่ผิดแน่นอน แต่วัตถุมงคลบางอย่าง หรือของพระอริยะสงฆ์เจ้าระดับสูงๆ
นั้น ก็สามารถลดแรงกรรม หรืออาจพลิกกรรมบางอย่างได้นะครับอย่าลืม) จึงจำเป็นต้องอาศัยการอธิษฐานตั้งธาตุจากวัตถุมงคลนั้นๆ
ครับ เพราะประโยชน์ของการตั้งธาตุมีด้วยกันหลายประการ อาทิเช่น
1.เราสามารถดึงเอาพลังที่มีในวัตถุมงคลมาใช้ได้มากขึ้น
2.สามารถปรับธาตุขันธ์ในกายเราให้มีความสมดุลในเรื่องของธาตุ
3.สามารถยกระดับจิตของเราให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
เช่นจากเป็นคนใจร้อนก็จะใจเย็นลง
4.สามารถเข้าถึงธรรมหรืออาจเข้าถึงฌาน
และญาณได้เพราะเป็นการกำหนดกรรมฐานไปในตัว
5.เป็นการสื่อถึงครูบาอาจารย์องค์นั้นๆ
โดยใช้วัตถุมงคลเป็นสื่อ ให้ได้รับเอากระแสบารมีจากท่านได้โดยตรง
(ไม่ว่าท่านจะยังดำรงขันธ์อยู่หรือไม่ก็ตาม)
6.วัตถุมงคลที่เราอธิษฐานนั้น
ไม่ได้ลดพลังลงเลย แต่กลับเพิ่มขึ้นด้วย เพราะคุณพระ
และครูบาอาจารย์ท่านส่งพลังบารมีมาให้เรา ฯลฯ
ขั้นตอนการตั้งธาตุ
การตั้งธาตุทำได้โดยการนำวัตถุมงคล
กำเอาไว้ในมือแล้วระลึกถึงพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ อธิษฐานขอตั้งธาตุ จากนั้นแผ่เมตตาไปที่วัตถุมงคล
เพื่อปรับกระแสให้เป็นไปในทางเย็น โดยใช้บทแผ่เมตตา
จากนั้นเราอาจจะภาวนาหัวใจแม่ธาตุ "นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ
นะมะอะอุ" ก็ได้ หรือภาวนาบทมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ด็ได้
หรือบทภาวนาอะไรก็ได้ตามความถนัดพอ ภาวนาจนกระทั่งจิตเริ่มเป็นสมาธิ
ให้น้อมระลึกว่าเราขอดึงพลังจากวัตถุมงคลนี้ให้ช่วยปรับธาตุในกายเราฯลฯ
ถ้าหากท่านใดพอจะมีสมาธิจิตดีสามารถรับสัมผัสพลังงานจากวัตถุมงคลได้ก็จะมีความรู้สึกเหมือนมีพลังงานเข้าคลุมตัวของเราหรืออาจมีพลังงานเข้าแทรกตามร่างกายฯลฯ
แต่หากบางท่านที่ยังไม่มีสมาธิที่ดี หรือยังสัมผัสพลังงานของวัตถุมงคลไม่ได้
ก็ให้ภาวนาไปเรื่อยๆ และนึก มโนภาพ ว่ามีแสงพุ่งขึ้นมาจากพระเข้ามาหาเรามาก็ได้
พอทำไปสักระยะหนึ่ง พอเริ่มคล่องตัว เดี๋ยวก็จะสามารถสัมผัสได้เอง
ส่วนวัตถุมงคลของท่านพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ที่ใช้ในการตั้งธาตุที่ดีนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายท่านด้วยกัน
แต่ที่เป็นที่นิยมเอาไปตั้งธาตุนั้นก็แน่นอนครับ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน, หลวงปู่ละมัย
เพชรบูรณ์, หลวงปู่ญาท่านสวน, หลวงปู่ดู่
วัดสะแก, หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน, ฯลฯ....,
เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น