พระกริ่งชินบัญชร
เนื้อมหาชนวน รุ่นสบายดี หลวงปู่สอ ขันติโก
จากตำนานพระกริ่งชินบัญชร
หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปี 2517 สู่ตำนานพระกริ่งชินบัญชร สบายดี
ที่ได้ร่วมชนวนมวลสาร จากทั่วประเทศ ชนวน164 ชาตกาล หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง แผ่นพระยันต์
108 นะปัทมัง 14 แผ่นจารชินบัญชรแผ่นพระไตรปิฏก แร่เหล็กไหลพันคำ แร่เหล็กไหลเปียก
องค์พระธาตุพนม ชนวนหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ชนวนพระกริ่งไชยบัญชรหลวงปู่อ่อง ชนวน 108
คณาจารย์ สายอิสานและอีกทั่วประเทศเป็นต้น
เผยตำนานแร่เหล็กเปียก
กรุพระธาตุพนม ที่นำมาใช้ผสมทำพระกริ่งชินบัญชร รุ่นสบายดี หลวงปู่สอ
ขันติโกอมตะเถระ6 แผ่นดิน บูรพาจารย์สายสำเร็จลุน วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม อายุ113 ปี 93
พรรษา
เหล็กไหลเปียกเป็นเหล็กไหลอีกชนิดหนึ่งที่หายากและไม่ค่อยพบเห็น
เหล็กไหลเปียกจะมีความใกล้เคียงกับเหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว
คือมีผิวพรรณวรรณะเป็นสีเงินยวง
แต่สามารถกลับกลอกสีผิวตัวเองได้จากขาวเป็นดำและจากดำเป็นขาว
คล้ายโลหะจำพวกเงินที่เมื่อโดนอากาศแล้วจะทำให้สีผิวเปลี่ยน แต่เหล็กไหล
เปียกยิ่งอัศจรรย์กว่านั้นเพราะโลหะจำพวกเงินเมื่อเปลี่ยนสีผิวจาก
ขาวเงินยวงเป็นสีออกดำแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเดิม ได้เอง
ต่างกับเหล็กไหลเปียกที่สามารถเปลี่ยนสีผิวตนเองให้กลับไป กลับมาได้
เหล็กไหลเปียกหรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า..เหล็กเปียก
นี้มีอิทธิฤทธิ์เป็นที่น่าอัศจรรย์คือสามารถเรียกหยดน้ำในอากาศมารวมตัวกันได้
ไม่ว่าเหล็กเปียกจะอยู่ที่ไหนก็จะมีความชุ่มชื้นที่นั่นดุจเดียว กับเหล็กไหลน้ำ
เหล็กเปียกมักพบเป็นก้อน มีสัณฐานดั่งก้อนแร่ใต้ดิน
ครูบาโพนสะเม็ก, ซึ่งเป็นพระอริยเจ้าทางฝังลาวเป็น
ผู้ที่ค้นพบเหล็กไหลเปียกจากการนั่งทางในแล้วนิมิตเห็นแร่กายสิทธิ์ ประเภทนี้
ท่านจึงได้นำเอาแร่ชนิดนี้มาหลอมแล้วนำมาเคี่ยวด้วยวิชา
อาคมและได้นำเหล็กเปียกมารีดเป็นแผ่น หลังจากนั้นนำไปบรรจุไว้
ที่ยอดฉัตรของพระธาตุพนม ด้วยเชื่อว่ามีอานุภาพทางป้องกันฟ้าผ่า
อัคคีภัยและบันดาลความร่มเย็นเป็นสุขได้
ฤทธิ์อำนาจจากเหล็กไหลเปียกทำให้หัวไม้ขีดยุ่ย
ดินปืนเปียก กันฟ้าผ่า ไม่อาจจุดระเบิดหรือติดไฟขึ้นมาได้
ซึ่งคล้ายคลึงกับฤทธิ์อำนาจของ เหล็กไหลน้ำ และเหล็กไหลชีปะขาว เพียงแต่มีลักษณะรูปพรรณสัณฐาน
ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ฤทธิ์ของเหล็กเปียกจะก่อให้เกิดความชื้น ขึ้นทุกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น