วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

ประวัติหลวงปู่สิงห์ พรหฺมโชโต

ประวัติหลวงปู่สิงห์ พรหฺมโชโต
#พระครูสุทธิพรหมโชติ หรือ หลวงปู่สิงห์ พรหฺมโชโต
เจ้าอาวาสวัดวิชัย อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
หลวงปู่สิงห์นั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกจิลุ่มแม่น้ำศรีสงครามในยุคปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะเรื่องวิชาคาถาและอาคม ที่ได้สืบถอดจาก
#หลวงปู่สีทัตถ์ สุวรรณมาโจ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม
พระครูสันธานพนมเขต หรือ #หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
พระครูพิทักษ์อุทุมพร หรือ #หลวงปู่ญาคูสุ วัดวิชัย อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
#หลวงปู่สาย ทิตฺตปัญโญ วัดจูมมณี บ้านขามเปี้ยใหญ่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
พระอริยสงฆ์เกจิคณาจารย์ของหลวงปู่สิงห์ในจังหวัดนครพนมที่กล่าวมา ทั้ง ๔ รูปนี้
ชาวบ้านในสมัยก่อน ต่างยกย่องตั้งขนานนามให้ฉายยา ว่า
พระอริยสงฆ์เกจิ ๔ สอ แห่งจังหวัดนครพนม นั้นก็คือ #สีทัตถ์ #สนธิ์ #สุ #สาย
พระเกจิอริยสงฆ์ผู้ทรงอภินิหารที่กล่าวมานี้ ซึ่งมีชื่อเสียงในสมัยก่อนที่มีตำนานเล่าคาญอันโด่งดังไม่ว่าจะเรื่อง ปฎิหาร นาๆ ของแต่ละท่านให้ฟัง ติดวาจากันเลยว่า พระอริยสงฆ์ ๔ สอ โดยมีลูกศิษย์ลูกหา มากมายโดยเฉพาะ หนึ่งในนั้น นั่นก็คือ
#หลวงปู่สิงห์ พรหฺมโชโต
ชื่อเดิม ชื่อสิงห์ ท่านเกิดเมื่อ ปี พ.ศ. 2467
ภูมิลำเนาเกิดที่บ้านหนองบาท้าว ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
บิดาของท่านชื่อนายสด มารดาของท่านชื่อนางสุ
หลวงปู่สิงห์ครั้งวัยเยาว์ มีความประพฤติเรียบร้อย นิสัยโอบอ้อมอารี ขยันหมั่นเพียร อดทนต่ออุปสรรค ช่วยเหลือกิจการงาน ของบิดา มารดา โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
เมื่อ ด.ช. สิงห์ อายุได้ ๑๐ ปี อยากบวชเรียน เพื่อทดแทนคุณบิดามารดาที่เลี้ยงดูท่าน ด.ช.สิงห์จึงได้มา ฝากตัวเป็นศิษย์ กับ หลวงปุ่ญาคูสุ ที่วัดวิชัย บ้านหนองบาท้าว ซึ่งอยู่ไกล้กับบ้านของ ด.ช.ปู่สิงห์ หลวงปู่ญาคูสุก็รับไว้แต่ยังไม่ให้บรรพชาเป็นสามเณร เพราะอยากให้ ด.ช.สิงห์บวชเณรได้นาน จึงต้องประพฤติปฎิบัติในตอนเป็นฆาราวาสให้ได้เสียก่อน จึงให้ ด.ช.สิงห์ห่มผ้าขาว  อีกอย่างการบวชต้องเคร่งขัดประฎิบัติกิจวัติต่างๆ ไม่สุขสบายเหมือนฆาราวาส ดังนั้นหลวงปู่ญาคุสุจึงไห้ ปฎิบัติกิจวัตรทำวัตรสวดมนปฎิบัติอย่างนี้ทุกวันพร้อมกับหลวงปู่ญาคูสุเป็นประจำไม่ขาดกิจวัตรเลย หลวงปู่ญาคุสุเห็นคววมขยันมั่นเพรียรของ ด.ช.สิงห์ และบอกกับ ด.ช.สิงห์ อีกว่าหากปฎิบัติกิจวัตรรักษาศีลบำเพ็ญเพียรอย่างนี้ทุกวันได้ นั้น จะพาไปบวชเรียนอยู่สำนักหลวงปู่สีทัตถ์ เพราะในสมัยนั้นเปรียบได้ว่า วัดพระธาตุท่าอุเทน
เป็นดังโรงเรียนพระปริยัตติธรรมพระภิกษุสามเณร ที่จะมีการถ่ายถอดความรู้ด้านต่างๆให้แก่พระภิกษุสามเณร  ดังนั้น  ด.ช.สิงห์  จึงมีมานะขยันอดทนพร่ำเพียรปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ
ได้สองอาทิตย์ ไม่มีท่าทางที่จะเบื่อหน่ายหรือท่อแท้เลย
เช้าวันต่อมา หลังจากหลวงปู่ญาคูสุ กลับจากบิณฑบาต ฉันเช้า เสร็จกิจวัตรต่างๆแล้ว
จึงให้พ่อแม่ ด.ช. สิงห์ เตรียมม้า เพื่อที่จะออกเดินทาง ไปหาหลวงปู่สีทัตถ์ ที่พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งเป็น อาจารย์ของหลวงปุ่ญาคูสุ ตั้งแต่ตอนที่หลวงปุ่ญาคูสุเป็นสามเณร
หลวงปู่ญาคูสุจึงพา ด.ช. สิงห์ ไป บวชเป็นสามเณร เพื่อเล่าเรียนหนังสือในสำนักท่าอุเทน กับหลวงปู่สีทัตถ์ ท่านจึงรับไว้ แต่ยังไม่บวชให้ เพราะท่านจะพา ด.ช.สิงห์ ไปบวชฝั่งลาว
ด.ช.สิงห์ ก็คิดที่อยากไปบวชเป็นสามเณรเพื่อศึกษาเล่าเรียน
เลยขออนุญาตบิดามาดาและพี่สาว ที่ไปหาหลวงปุ่สีทัตถ์ที่พระธาตุท่าอุเทนด้วยกัน
เมื่อหลวงปู่สิงห์ อยากไปเพื่อศึกษาเล่าเรียนในทางธรรม
บิดามารดาของ ด.ช.สิงห์ เห็นลูกชายมีความตั้งมั่นชอบในด้านนี้จึงยินดี ที่ลูกชายจะไปบวชอยู่ฝั่งลาว กับพระอริยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงมากในภาคตะออกเฉียงเหนือ

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

พระผงหัวใจเศรษฐีรุ่นแรกหลวงปู่ถ้า อนาลโย



พระผงหัวใจเศรษฐีรุ่นแรกหลวงปู่ถ้า อนาลโย
พระผงหัวใจเศรษฐีรุ่นแรกหลวงปู่ถ้า อนาลโยวัดป่าทศพลมังคลารามอำเภอเมยวดีจังหวัดร้อยเอ็ดรุ่นนี้สร้างปี พ.ศ. 2561 โดยมีพระเกจิคณาจารย์สายร้อยเอ็ดและมหาสารคามร่วมปลุกเสกมากมายอาทิ หลวงปู่ขำเกสาโรวัดหนองแดงอำเภอนาเชือกจังหวัดมหาสารคามหลวงปู่ล้อม สิรสังวโร วัดป่าเมตตาธรรมอำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่หนู สุวัณโณ วัดอัมพวนาราม อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด และหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโทอำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์
ขอขอบคุณ คุณนัตติ ศูนย์พระใหม่เมืองชล ที่ได้มอบพระผงหัวใจเศรษฐีรุ่นแรกหลวงปู่ถ้า อนาลโย  ในครั้งนี้ครับ