วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส จันทบุรี


หลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส จันทบุรี
ย้อนรอยอดีตพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในจังหวัดจันทบุรี  คงต้องยกให้หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส อดีตเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรส ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ที่ได้รับสมญานามว่า "เทพเจ้าแห่งเขาสมิง" ปัจจุบันแม้ว่าท่านจะละสังขารไปกว่าทศวรรษแล้ว แต่วัตถุมงคลและเครื่องรางของท่าน ก็ยังคงความขลัง-ศักดิ์สิทธิ์และสร้างประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ให้ผู้สวมใส่บูชามิได้ขาด
หลวงพ่อคง นั้น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แม้ท่านอาจจะอายุน้อยกว่าแต่เรื่องอาคมนั้นท่านไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว ท่านได้รับไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก ในพิธีใหญ่ๆ พร้อมๆ กับเกจิร่วมสมัยอยู่หลายครั้ง  พระเครื่องของท่านนั้น เด่นทั้งด้านเมตตามหานิยม และ คงกระพันชาตรี  พระครูอาคมวิสุทธิ์ (หลวงพ่อคง สุวณฺโณ) วัดวังสรรพรส ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่งของภาคตะวันออก ร่วมสมัยเดียวกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า หลวงพ่อศรีนวล วัดเกวียนหัก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
ประวัติหลวงพ่อคง สุวัณโณ (พระครูอาคมวิสุทธิ์)
     นามเดิมของหลวงพ่อคือ คง ฑีฆายุ โยมบิดาชื่อ ส้อง โยมมารดาชื่อ โอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๔๕ ตรงกับวันเสาร์ ปีขาล ณ บ้านตาพราย ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด อุปสมบทครั้งแรก พ.ศ.๒๔๖๖ อายุได้ ๒๑ ปี อุปสมบทครั้งที่ ๒ เมื่อวันอังคารที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๗ ขณะอายุได้ ๓๒ ปี ณ วัดชมพูราย จ.ตราด โดยมี พระอธิการผูก วัดสลัก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุวณฺโณ"
     ท่าน ได้ศึกษาธรรมะและวิชาคาถาอาคมขลัง อักขระเลขยันต์จากโยมตาชื่อ หลวงคีรีเขตุ ซึ่งเป็นผู้มีวิชาทางคงกระพันเป็นเลิศ ตลอดจนพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อเม วัดมาบไผ่ ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี (หลวงพ่อเม ท่านมีวิชาขนาดเหาะเหินเดินอากาศได้ครับ), หลวงพ่ออ่ำ วัดสะตอน้อย ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี   ,หลวงพ่ออุก หลวงพ่อเจาะ วัดโป่งโรงเซ็น ต.โป่งโรงเซ็น อ.มะขาม จ.จันทบุรี ,หลวงปู่วง (ปู่ของท่าน) ,หลวงพ่อหริ่ง ,ครูเต๋า ,และครูตาสด ฯลฯ
     หลวงพ่อคงได้ออกเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ ตลอดจนข้ามไปทางฝั่งประเทศพม่า กัมพูชา เพื่อฝึกฝนวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา โดยเฉพาะวิชา เสือสมิง ท่านมีความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นพิเศษ ดังจะเห็นได้ว่า วัตถุมงคลของท่านแทบทุกรุ่น จะต้องมีรูปเสือสมิง ปรากฏอยู่ด้วย
     หลังจากที่ได้เดินธุดงค์จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดวังสรรพรส และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสตั้งแต่พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นต้นมา
วัตถุมงคลของหลวงพ่อคงทุกรุ่นล้วนมีพุทธคุณเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน เป็นที่เลื่องลือกันอย่างกว้างไกล นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญด้านรักษาโรคด้วยสมุนไพรอีกด้วย จนเป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาวบ้านตลอดมา
การสร้างวัตถุมงคล
วัตถุมงคลหลวงพ่อมีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังกล่าวถึงตลอด หลวงพ่อคงมีจริยาวัตรงดงามมาก บุคคลต่างๆรวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศเดินทางมากราบไหว้ท่าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อคงใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนมาโดยตลอด ไม่ลำเอียง ใครเจ็บป่วยมาหาท่าน ท่านจะเมตตาช่วยเหลือตลอดทุกคนเสมอไป หลวงพ่อคงมีแต่ให้กับให้ ใครมาขออะไรก็ให้ทั้งนั้น แม้กระทั่งเงินและวัตถุมงคล ตลอดระยะเวลาในการอุปสมบทของท่าน ท่านได้ปฏิบัติตามกฏของสงฆ์อย่างเคร่งครัดมีการครองผ้าสวดมนต์ ทำวัตรเช้า เย็น ตลอดมามิได้ขาด จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูอาคมวิสุทธิ์  ซึ่งแปลว่า พระผู้ซึ่งมีอาคมขลังเป็นที่สุด

     หลวงพ่อคงได้อนุญาตให้ลูกศิษย์ สร้างวัตถุมงคลทั้งที่เป็นประเภท เหรียญ รูปหล่อ และพระเนื้อผง มากมายหลายสิบรุ่น ส่วนวัตถุมงคลประเภทเครื่องราง อาทิ ผ้ายันต์ ตะกรุด รวมทั้งปลัดขิก และเขี้ยวเสือต่างๆ หลวงพ่อคงได้สร้างเองก็มีหลายแบบ ล้วนแล้วต่างมีประสบการณ์มากมายและส่วนมากวัตถุมงคลของท่านจะทำการปลุกเสก เดี่ยวจนครบไตรมาส จึงจะเอามาออกแจกใครได้รับต่างก็หวงแหน




เหตุที่ทำให้หลวงพ่อคงดังระเบิด
เหตุที่เกิดขึ้นนี้ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด และเรื่องนี้เกิดขึ้นในตลาด จึงทำให้คนรู้เห็นมากมาย เรียกว่าทำให้หลวงพ่อคงดังในข้ามคืน ดังรายละเอียดดังนี้ วัตถุมงคลของท่านหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส สามชิ้นนี้ที่ทำให้ นายชำนาญ ผดุงศาสน์ (เสี่ยกี๋) รอดพ้นจากคมกระสุนอาก้า 7 กระบอก คือ
1.รูปหล่อบ่าร้าว
2.ตระกรุด
3.เหรียญกลมนั่งหัวเสือหลังนูน
ประสบการณ์สร้างชื่อ เสี่ยกี๋ แห่งเหมืองพลอย บ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี แถบนั้นถามชื่อเสี่ยกี๋ ใครก็รู้จักเป็นอย่างดี มีชื่อในการทำเหมืองพลอยมานาน ชื่อจริง นายชำนาญ ผดุงศาสน์ เป็นศิษย์ ของท่านพ่อคง วัดวังสรรพรส ในตัวมีตะกรุด และเหรียญกลมนั่งหัวเสือหลังนูน กับรูปหล่อบ่าร้าว เขามั่นใจและบูชายึดมั่นแต่ท่านพ่อคง เพราะมีประสบการณ์ ผ่านมามากมาย นับไม่ถ้วน ลูกผู้ชายชื่อเสี่ยกี๋ ทำงานฝ่าดงอันตราย จากการทำงานเหมืองพลอย บ่ายวันหนึ่ง ในเดือนมีนาคมปีพ.ศ.2528 เสี่ยกี๋และพรรคพวก อีกสองสามคน นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ในตลาดบ่อเวฬุ หลังจากกินเสร็จ แล้วก็ พากันเดิมข้ามถนน มายังรถซึ่งจอดอยู่อีกฝั่งถนน ยังไม่ทันได้เปิดประตูรถ เสียงดังเหมือนฟ้าผ่า ก็กัมปนาทขึ้น นั่นคือเสียงปืนอาก้าดังสนั่นหวั่นไหว ก้องตลาดบ่อเวฬุ ชาวบ้านแตกตื่น หาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่น คณะของเสี่ยกี๋ เป็นเป้ากระสุนกลางถนน โล่งแจ้ง ยากที่จะพลาดจากกระสุน ที่ลั่นราวห่าฝนได้ คนทั้งสามคน โดนกระสุนปืนอาก้าเต็มที่ คนละนับสิบนัด เพราะเสียงปืนที่คำรามนั้นดังติดต่อกันนานราว10นาที กระบอกนี้ หมดกระบอกใหม่แทนที่ ติดต่อกัน 7กระบอก หลับตานึกถึงเป้ากระสุนกลางถนนดู ไม่เละเป็นหมูสับก็เต็มที่แล้ว เสี่ยกี๋ โดนกระหน่ำ ล้มคว่ำล้มหงาย แล้วลุกขึ้นมาอีกล้มลงไปอีก มือกุมอยู่ที่ด้ามปืน ชักขึ้นมาไม่ทัน เพราะห่ากระสุนที่สาดมานั้น กระทบร่างกระดอนไปมาสั่นสะเทิ้น พรรคพวกอีกสองสามคน ล้มกลิ้งอยู่กับพื้นถนน กระบอกที่7 ปล่อยกระสุนชุดสุดท้ายสิ้นสุดลง แทนที่จะปิดฉาก เสียงระเบิด ลูกสุดท้าย กังวานสนั่นขึ้น รถของเสี่ยกี๋ กระเด็นไปพังแหลกยับ ไม่มีชิ้นดี สุดท้ายที่โดนคือจรวดอาพีจี นั่นเอง คณะมือปืนโหดยิงกันจนหมดลูกปืนแล้วก็ผละหนีไป เสียงกังวานของปืนนั้นได้ทำลายขวัญ ชาวบ้านแตกตื่น อกสั่นขวัญหนี ตำรวจที่อยู่แถวนั้น นึกว่าเขมรบุก เพราะอยู่ใกล้ชายแดน จัดแจงล้อมโรงพักเอาไว้แน่นหนา เมื่อเสียงปืนสงบลง ชาวบ้านก็ออกมา ทยอยดูเหตุการณ์ ปรากฎว่าเสี่ยกี๋ และพรรคพวก เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ไม่มีชิ้นดี ตามตัวไม่มี บาดแผล มีแต่กระสุนนัดเดียวที่เข้าไปติดรักแร้ ของเสี่ยกี๋ เพียงสลัดก็หลุดออกมา ทั้งหมดปลอดภัย แต่เสียรถปิคอัพ ไปหนึ่งคัน
ปลายชีวิตหลวงพ่อคง
ในช่วงท้ายของชีวิตหลวงพ่อคงได้อาพาธเป็นไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม มีโรคแทรกซ้อน เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2532 ลูกศิษย์ได้ส่งหลวงพ่อคงไปรักษาที่ รพ.ตากสิน จันทบุรี จนพอทุเลา ท่านก็ขอกลับมาที่วัดวังสรรพรส และต่อมาอีกไม่กี่วัน ท่านก็ได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ณ วัดวังสรรพรส ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2532 เวลา 10.15 น.รวมสิริอายุได้ 87ปี พรรษาที่ 55 ก่อนที่จะท่านมรณภาพ หลวงพ่อคง สุวณฺโณ ได้ปรารถ กับศิษยานุศิษย์ว่า ให้เก็บร่างท่านไว้ มิฉะนั้นต่อไปจะไม่มีคนมาวัด
     หลังจากทีท่านมรณภาพไปแล้ว เล็บมือ เล็บเท้า เส้นเกศาของท่านจะยาวออกมาตลอด

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน ตอน 3

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน1 ตอก 3 โค๊ด เหรียญที่ 1
ซึ่งข้อมูลจากผู้สร้างแจ้งว่ามีจำนวน 200  เหรียญ

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน1 ตอก 3 โค๊ด เหรียญที่ 2

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน1เนื้อทองแดงผิวไฟ
บล๊อกทองคำเหรียญที่ 1

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน1เนื้อทองแดงผิวไฟ
บล๊อกทองคำเหรียญที่ 2 สร้างจำนวน 3000 เหรียญ

ด้านหลังบล๊อกทองคำ

เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน1เนื้อทองแดง
จำนวนสร้างทั้งหมด 50,000 เหรียญ



เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน
เหรียญมังกรคู่หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดเวฬุวัน ดำริสร้างโดย หลวงปู่อุดมทรัพย์ ผู้ให้กำเนิดมังกรรุ่นแรก หลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม ปี2543 เพื่อหาทุนในการสร้างศาลาการเปรียญ เนื้อทองแดง ได้ใส่ชนวน หลวงปู่หมุนลงไปด้วยหลวงปู่อุดมทรัพย์ ได้หลอมชนวนปี 2553-2554 ชนวนมวลสาร ตะกั่วชินพันปี ตะกรุดหลวงพ่อเอีย หลวงปู่หมุน ชนวนโลหะที่หลวงปู่เสกไว้ โดยมีเหรียญมังกร เหรียญตอก 1 เหรียญหมุนเงินหมุนทอง ชนวนกริ่งเสาร์๕เหรียญทุกเหรียญของหลวงปู่หมุนและหลวงปู่ละมัย โดยได้นำชนวนหลอมกับทองแดง และตัดเป็นแผ่นเผาไฟปั๊มลงทีละองค์ นี่คือสุดยอดมวลสาร มังกรเวฬุวัน เนื้อทองแดง

พิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลัง 4 ครั้ง 4 รอบ คือที่ วัดบ้านจาน, วัดเวฬุวัน, วัดป่าหนองหล่ม (เหมือนรุ่นแรกที่ได้เสกในวิหารพระแก้ว) และวันที่ 5 ธันวาคม 2561 พิธีปลุกเสกที่ถ้ำเขาเลื่อม สถานที่ลับของหลวงปู่ที่เคยมาเสกวัตถุมงคลที่นี่หลายรุ่น แต่ไม่มีใครรู้ ดินแดนที่แม้แต่ระเบิดจากสงครามก็ทำอะไรพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้
ณ.ถ้ำเขาเลื่อม ดินแดงศักดิ์สิทธิ์...สมัยก่อนถ้ำนี้ปู่หมุนเคยมาปลุกเสก เสกตามสูตร ถ้ำนี้เป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์สมัยก่อนยุคเขมร ระเบิดไม่เคยลง ใครยิงจะข้ามเขาหมดพระอาจารย์อุดมทรัพย์เคยไล่เก็บกระดูกเพื่อปลดปล่อยวิญญาณ เหตุที่มาเสกมังกรเวฬุวันที่นี่ เพื่อเพิ่มความขลัง อันดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เต็มสูตร ย้อนรอยครู สถานที่แห่งนี้ปู่หมุนท่านเคยมาเสกของและยอมรับสถานที่นี้คือดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์