เหรียญเสมาหลวงปู่ถ้า อนาลโยกะไหล่นาคลงยาสามสี
เหรียญเสมามหาบารมีเศรษฐีพันล้าน
หลวงปู่ถ้า อนาลโย นับเป็นวัตถุมงคลอีกรุ่นหนึ่ง
ซึ่งต่อไปจะหามีไว้บูชายากขึ้น
นอกจากมีความเข้มขลัง มีพลัง
มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ในที่นี้จากภาพ เป็นเหรียญเสมาหลวงปู่ถ้า อนาลโยกะไหล่นาคลงยาสามสี
หมายเลข ๓๗ ไทย
ลักษณะเหรียญเป็นเนื้อทองแดงชุบกะไหล่นาค ลงยาสามสี
ด้านหลังเป็นรูปพญานาคราชคู่ พญานาค หรือ
นาค เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ และความอุดมสมบูรณ์
เรามักจะเห็นนาคในงานจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะสถานที่ที่สำคัญ
ได้แก่ วัด อาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาสนสถานต่างๆ เช่น
บันไดทางขึ้นโบสถ์ หลังคาโบสถ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ผู้ที่ศรัทธาและมีความเชื่อมักจะนำรูปปั้นมาวางไว้ในสระน้ำหน้าบ้าน
นำภาพวาดมาตกแต่งบ้าน หรือนำเหรียญมาบูชาคล้อยคอ
องค์นาคาธิบดี
คือ กษัตริย์แห่งนาคา องค์ที่ปกป้องคุ้มครองไทยแลนด์นามแห่งท่านคือ
"องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธวิสุทธิเทวา" รองลงมาคือพระอนุชาของท่าน
กษัตริย์แห่งนาคาฝั่งลาวคือ "องค์นาคาธิบดีศรีสัตตนาคบาดาล วิสุทธิเทวา"
แห่งกรุงศรีสัตตนาคณหุต ล้านช้าง ร่มขาว
พญาศรีสุทโธนาคราช เป็นพญานาคราชที่อยู่ในตระกุลเอราปัถถะ
พระองค์มีพระวรกายเป็นสีเขียวเข้ม ปล้องพระ นาภี(ท้อง)และพระเศียรเป็นสีทอง เป็นพญานาคราชประจำองค์ท้าวสักกะเทวราช
(พระอินทร์)
ซึ่งเป็นพระโอรสของพญานาโคศิรินาคราชกับนางพญาศรีนคราบาดาล(แม่ย่าศรีเมือง) ปกครองพญานาคฝั่งประเทศไทยทั้งหมด
โดยเฉพาะบริเวณภาคอีสานเกือบทั้งหมด เวียงวังอยู่ที่คำชะโนดหรือวังนาคินทร์
ซึ่งเป็นที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองบาดาล
ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ ๓ แห่ง คือ
๑. หนองคันแท
บริเวณตอนใต้ของธิเบต ประเทศจีน
๒.
บริเวณประเทศลาว กรุงเวียงจันทร์
ตอนนี้สร้างพระธาตุหลวงนครเวียงจันทร์ปิดทางขึ้นลงเรียบร้อยแล้ว
๓.
ที่พรหมประกายโลกหรือวังนาคินทร์ คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี)
ประวัติย่อโดยสังเขปหลวงปู่ถ้า
อนาลโย วัดทศพลมังคลาราม จ.ร้อยเอ็ด
หลวงปู่ถ้า อนาลโย วัดทศพลมังคลาราม
จ.ร้อยเอ็ด พระอริยะสงฆ์ 6 แผ่นดิน ปัจจุบันสิริอายุท่าน
105 ท่าน เป็นพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ในอดีตท่านได้ออกธุดงค์
ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ ธุดงค์ลัดเลาะตามป่าเขาลำเนาไพรทั้งในเขตประเทศไทย
และข้ามฝั่งเข้าสู่ดินแดนปราสาทขอมประเทศเขมร ได้ไปพบกับพระอาจารย์ไพร ผู้มีวิชาแก่กล้า
ปราชญ์เปรื่องเลื่องลือในด้านวิชาอาคม มนต์ดำ มหาเสน่ห์ และการทำเครื่องรางของขลัง
จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์
พระอาจารย์ไพรได้ถ่ายทอดวิชาอาคมสายต่างๆให้โดยมิได้ปิดบังใดๆ
หลวงปู่ฯอยู่ร่ำเรียนวิชาด้วยเป็นระยะเวลา ๓ ปี
เมื่อหลวงปู่ถ้าฯเห็นว่าการร่ำเรียนวิชาอาคมตำหรับเขมรสำเร็จลุล่วง
จึงกราบลาพระอาจารย์ไพร ผู้เป็นอาจารย์ หลวงปู่ถ้าฯ
เดินธุดงค์ออกจากประเทศเขมรมุ่งหน้าสู่บ้านเกิด
เพื่อนำวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ มาช่วยเหลือญาติโยม
ในการทำมาค้าขาย ทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ถ้า อนาลโย
กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์
(หลวงปู่เคยออกธุดงค์ร่วมกับสหธรรมิกศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เทศ เทศรังสี หลวงปู่จาม
มหาปุญโญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)ไปหลายสถานที่ทั้งในประเทศไทย ลาว เขมร
และประเทศพม่า การเดินธุดงค์สมัยนั้นต้องเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ช้าง
เสือ อสรพิษที่ดุร้ายและสิ่งลี้ลับ ล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น
แต่ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วย การปฎิบัติภาวนาสมาธิ การเจริญกรรมฐาน
เมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยธรรมะ ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์ ที่กรุงเทพมหานคร
ทราบถึงความเก่งกล้าด้านวิชาอาคม ของหลวงปู่ฯจึงขออนุญาตสร้างเครื่องราง
หนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มวลสารต่างๆที่นำมาสร้าง ประกอบไปด้วย
รกแมวดำ ๙ ตัว น้ำตาปลาพะยูน ว่านดอกทอง ผงไม้รัก ไม้ขนุน ว่านนางอกแตก นำมาผสมกันเติมผงสวาทเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดแล้วค่อยยกลง
นำมากดพิมพ์ด้วยมือขึ้นรูปนำลงใส่ในไหฝังดิน
พันด้วยด้ายสายสินธุ์โยงขึ้นมาให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า ๑ ปี
จนแมวกับหนูตัวเป็นๆวิ่งมานอนเกลือกกลิ้งเล่นกัน
ตรงพื้นดินบริเวณที่ฝังไหเครื่องราง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น