พระผงนั่งตั่ง
รุ่น สมปรารถนาหลวงปู่ถ้า อนาลโย
.ใครที่พลาดจากการจอง
และอยากมีพระผงนั่งตั่ง รุ่น สมปรารถนาหลวงปู่ถ้า อนาลโย ไว้บูชาติดต่อได้ครับ 099-7130096 มียอด
1 ลัง ( 100 องค์) องค์ 100 บาท บวกค่าส่ง EMS 60 บาท
หลวงปู่ถ้า
อนาลโย วัดป่าทศพลมังคลาราม อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด จ้าวตำหรับหนูดูดนมแมว
มหาเสน่ห์ชั้นสูงค้าขายโชคลาภเป็นที่หนึ่ง เป็นครั้งแรก หรือรุ่นแรกที่หลวงปู่ถ้า
อนาลโย วัดป่าทศพลมังคลาราม กับพระผงนั่งตั่ง รุ่น สมปรารถนา
ด้วยฉนวนมวลสารจากชั้นครูหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ที่ได้รับจากหลวงปู่อุดมทรัพย์ เช่นผงชนวนมวลสารเก่าหลวงปู่หมุนและผงงาช้างปิดตารวยทันใจ
เพื่อผสมในพระผงนั่งตั่ง รุ่นสมปรารถนา อีกทั้งหลวงปู่ถ้า
ยังได้สละจีวรในการทำมวลสารพระผงนั่งตัง รุ่นสมปรารถนา
ดังนั้นทำให้พระแต่ละองค์จึงมองเห็นจีวรของท่านอย่างชัดเจน
ประวัติโดยย่อ หลวงปู่ถ้า อนาลโย
พระเกจิ ๔ แผ่นดิน เกิดปีมะโรง พ.ศ.๒๔๕๗ ที่บ้านงิ้ว อำเภอคำชะอี (อำเภอหนองสูง
ในปัจจุบัน) จังหวัดมุกดาหาร อุปสมบท เมื่ออายุ ๒๑ ปี ในปีพ.ศ.๒๔๗๘
เคยจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์
ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าทศพลมังคลาราม บ้านบุ่งเลิศ ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี
จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ เป็นเวลา ๑๕ พรรษา ด้วยภารกิจทางครอบครัว
ที่หลวงปู่ต้องไปแก้ปัญหาด้วยตนเอง จึงได้ ลาสิขาบท เมื่อสะสางปัญหาต่างๆแล้วเสร็จ
ด้วยใจที่ไฝ่การบรรพชา อุปสมบท ถือศีลบำเพ็ญเพียรในการเจริญกรรมฐานจึงเข้าสู่เพศบรรพชิตอีกครั้ง
เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชน
ให้เข้าถึงธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเข้าอุปสมบทเป็นครั้งที่ ๒
จำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์ และวัดป่าทศพลมังคลาราม บ้านบุ่งเลิศ
ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด จนถึงปัจจุบัน
หลังจากอุปสมบทหลวงปู่ถ้าฯได้ออกธุดงค์ ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ
ธุดงค์ลัดเลาะตามป่าเขาลำเนาไพรทั้งในเขตประเทศไทย
และข้ามฝั่งเข้าสู่ดินแดนปราสาทขอมประเทศเขมร ได้ไปพบกับพระอาจารย์ไพร
ผู้มีวิชาแก่กล้า ปราชญ์เปลื่องเลื่องลือในด้านวิชาอาคม มนต์ดำ มหาเสน่ห์
และการทำเครื่องรางของขลัง จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์
พระอาจารย์ไพรได้ถ่ายทอดวิชาอาคมสายต่างๆให้โดยมิได้ปิดบังใดๆ
หลวงปู่ฯอยู่ร่ำเรียนวิชาด้วยเป็นระยะเวลา ๓ ปี
เมื่อหลวงปู่ถ้าฯเห็นว่าการร่ำเรียนวิชาอาคมตำหรับเขมรสำเร็จลุล่วง จึงกราบลาพระอาจารย์ไพร
ผู้เป็นอาจารย์ หลวงปู่ถ้าฯ เดินธุดงค์ออกจากประเทศเขมรมุ่งหน้าสู่บ้านเกิด
เพื่อนำวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ มาช่วยเหลือญาติโยม
ในการทำมาค้าขาย
ทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ถ้า อนาลโย กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์ (หลวงปู่เคยออกธุดงค์ร่วมกับสหธรรมิกศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เทศ เทศรังสี หลวงปู่จาม มหาปุญโญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)ไปหลายสถานที่ทั้งในประเทศไทย ลาว เขมร และประเทศพม่า การเดินธุดงค์สมัยนั้นต้องเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ช้าง เสือ อสรพิษที่ดุร้ายและสิ่งลี้ลับ ล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น แต่ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วย การปฎิบัติภาวนาสมาธิ การเจริญกรรมฐาน เมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยธรรมะ ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์ ที่กรุงเทพมหานคร ทราบถึงความเก่งกล้าด้านวิชาอาคม ของหลวงปู่ฯจึงขออนุญาตสร้างเครื่องราง หนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มวลสารต่างๆที่นำมาสร้าง ประกอบไปด้วย รกแมวดำ ๙ ตัว น้ำตาปลาพะยูน ว่านดอกทอง ผงไม้รัก ไม้ขนุน ว่านนางอกแตก นำมาผสมกันเติมผงสวาทเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดแล้วค่อยยกลง นำมากดพิมพ์ด้วยมือขึ้นรูปนำลงใส่ในไหฝังดิน พันด้วยด้ายสายสินธุ์โยงขึ้นมาให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า ๑ ปี จนแมวกับหนูตัวเป็นๆวิ่งมานอนเกลือกกลิ้งเล่นกัน ตรงพื้นดินบริเวณที่ฝังไหเครื่องราง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เมื่อหลวงปู่เห็นว่าเครื่องรางมีพุทธคุณเข้มขลัง จึงบอกให้ลูกศิษย์ขุดขึ้นมาใช้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า มีไว้ติดตัวทำมาค้าขายดี คนทำงานก็เช่นกันมีไว้ติดตัวนายเมตตา เพื่อนร่วมงานที่เคยกลั่นแกล้งต่างก็มาเป็นมิตร แม้แต่คนจีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย ฮ่องกง ต่างก็แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครอง เพราะมีหนูดูดนมแมวไว้ติดตัวอธิษฐานอะไรก็สำเร็จ จนเป็นที่โด่งดัง “เครื่องรางหนูดูดนมแมว” ทำให้ผู้ที่นิยมเครื่องราง ที่มีพุทคุณแรงๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างก็รู้จัก หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระกรรมฐานสายป่าเจ้าตำหรับวิชาเขมร (จากประวัติโดยย่อนี้ หากข้อมูลของหลวงปู่คลาดเคลื่อน ขาดตก บกพร่อง เพราะผู้เขียน ได้รับคำบอกเล่าจากหลายท่าน ประวัติหลวงปู่ถ้า อนาลโย
ทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ หลวงปู่ถ้า อนาลโย กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าดงคำชี จังหวัดกาฬสินธุ์ (หลวงปู่เคยออกธุดงค์ร่วมกับสหธรรมิกศิษย์ผู้พี่ หลวงปู่เทศ เทศรังสี หลวงปู่จาม มหาปุญโญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)ไปหลายสถานที่ทั้งในประเทศไทย ลาว เขมร และประเทศพม่า การเดินธุดงค์สมัยนั้นต้องเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร มีแต่ช้าง เสือ อสรพิษที่ดุร้ายและสิ่งลี้ลับ ล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น แต่ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายมาได้ด้วย การปฎิบัติภาวนาสมาธิ การเจริญกรรมฐาน เมตตา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยธรรมะ ครั้งหนึ่งคณะลูกศิษย์ ที่กรุงเทพมหานคร ทราบถึงความเก่งกล้าด้านวิชาอาคม ของหลวงปู่ฯจึงขออนุญาตสร้างเครื่องราง หนูดูดนมแมว พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มวลสารต่างๆที่นำมาสร้าง ประกอบไปด้วย รกแมวดำ ๙ ตัว น้ำตาปลาพะยูน ว่านดอกทอง ผงไม้รัก ไม้ขนุน ว่านนางอกแตก นำมาผสมกันเติมผงสวาทเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดแล้วค่อยยกลง นำมากดพิมพ์ด้วยมือขึ้นรูปนำลงใส่ในไหฝังดิน พันด้วยด้ายสายสินธุ์โยงขึ้นมาให้หลวงปู่เสกเป็นเวลานานกว่า ๑ ปี จนแมวกับหนูตัวเป็นๆวิ่งมานอนเกลือกกลิ้งเล่นกัน ตรงพื้นดินบริเวณที่ฝังไหเครื่องราง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เมื่อหลวงปู่เห็นว่าเครื่องรางมีพุทธคุณเข้มขลัง จึงบอกให้ลูกศิษย์ขุดขึ้นมาใช้ เป็นที่ต้องการของพ่อค้า แม่ค้า มีไว้ติดตัวทำมาค้าขายดี คนทำงานก็เช่นกันมีไว้ติดตัวนายเมตตา เพื่อนร่วมงานที่เคยกลั่นแกล้งต่างก็มาเป็นมิตร แม้แต่คนจีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย ฮ่องกง ต่างก็แสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครอง เพราะมีหนูดูดนมแมวไว้ติดตัวอธิษฐานอะไรก็สำเร็จ จนเป็นที่โด่งดัง “เครื่องรางหนูดูดนมแมว” ทำให้ผู้ที่นิยมเครื่องราง ที่มีพุทคุณแรงๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างก็รู้จัก หลวงปู่ถ้า อนาลโย พระกรรมฐานสายป่าเจ้าตำหรับวิชาเขมร (จากประวัติโดยย่อนี้ หากข้อมูลของหลวงปู่คลาดเคลื่อน ขาดตก บกพร่อง เพราะผู้เขียน ได้รับคำบอกเล่าจากหลายท่าน ประวัติหลวงปู่ถ้า อนาลโย
หนูดูดนมแมว สุดยอดวัตถุมงคล
เครื่องราง ร้อนแรงเป็นที่โจษจันกันมาก ถามหากันทั่ว ราคาพุ่งปรี๊ด
กับหนูดูดนมแมวหลวงปู่ถ้า อนาลโย อายุ ๑๐๓ ปี เกจิ ๔ แผ่นดิน
ทั้งไทยและเทศเก็บกันให้เรียบ แต่คราวนี้ร้องเฮกันได้เลยเพราะเราได้นำส่วนหนึ่งที่ได้ถูกเก็บไว้ตั้งแต่ปี
๕๖ มาชุบน้ำหมาก และ
หุงรมด้วยสีผึ้งนางหลง ทั้งพุทธคุณ
ทั้งมวลสารอัดแน่น เต็มทุกอณู...รีบเก็บก่อนจะหมดอดอย่างเคย เพราะมีจำนวนจำกัด
หนูดูดนมแมวเป็นเรื่องราวร้อนแรง
ด้านเมตตา
เป็นที่เสาะหานักเสี่ยงดวง ขวัญใจพ่อค้าแม่ขายดีนักแล ใช้แล้วมีแต่เงิน งาน
เข้าเป๋าตุง.. ยังเป็นเครื่องราง ช่วยเพิ่มพลัง
เสน่ห์หาต้องตา ตรึงใจทั้งชายหญิง
หมายปองหญิงใดชายใด แค่พกไว้ทำใจให้นิ่งกลั้นใจอธิฐานเท่านั้นแหละ เผชิญหน้าใส่เลย
เผลอแป๊บเดียวจะได้ไซร้เป็นแน่แท้ แพ้ใจกันไปเลย ใครขี้เหร่ ไม่สวย ไม่หล่อ
ต้องพกเอาเถิดจะเกิดเสน่ห์มิรู้ตัว จะสวย จะหล่อ จะผ่องเป็นยองใย
สะกดใจคนได้เหมือนต้องมนต์ ใครไม่สนจะกลับใจก็คราวนี้ เพื่อนร่วมงานรังเกียจ
ตัวมารอิจฉา วาสนาไม่ดี ใช้ได้ทั้งนั้น เจ้านายไม่ชอบ
ผู้บริการไม่รักโดนกลั่นแกล้งจะพลิกแพลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว สามีนอกใจ
ภรรยามีคนอื่น รึจะสู้หนูดูดนมแมวได้ โบราณกล่าวว่า
"แม้เลือดในอกยังยอมให้ได้เลย
หนูกับแมวเป็นศัตรูคู่อาฆาตเจอกันเมื่อไหร่ต้องฆ่ากันให้ตายไปข้าง
แต่กลับมาให้ดูดนมจากอก แสดงว่าต้องแรงจริงไม่งั้นทำไม่ได้" พกหนู
พกแมวได้ที่นอนเถิด เกิดจะรัก เกิดจะกอดในบันดล จะห่วงหาอาทร เอาอกเอาใจ หลงจนหัวคะมำตีลังกาโงหัวไม่ขึ้นกันทีเดียว
ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ตดยังว่าหอมเลย.. นักเสี่ยงด้วยทั้งหลาย ชอบเล่น ชอบแทง
ชอบลอง ไฮโล โปปั่น หุ้น หวย ทองคำ ทั้งม้าทั้งน้ำเต้าทั้งปูทั้งปลา ฯลฯ พก
ติดตัวดูดเบาๆ 3 ทีปลุกหนูปลุกแมว บอกกล่าว (ต้องไม่มากเกินวาสนาตัวเอง) ไม่ต้องพูดถึง
รวยกันมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ได้มาทำบุญให้หนูให้แมวจะมีพลังมากขึ้นทวีคูณ ที่ปอยเปตตี่นตัวดี
ถ้าเอาไปเล่นต้องซ่อนให้ดีไม่งั้นอดเข้าไปเล่นแน่แท้ เพราะที่นั่นกลัวกันมาก
หนูดูดนมแมวหลวงปู่ถ้า ทำเจ้ามือเจ้งระเนระนาดเป็นนาบกองมามากแล้ว
วิธีทำหลวงปู่ท่านได้นำมวลสารประกอบด้วย รกแมวดำ 9 ตัว
น้ำตาปลาพะยูน ว่านสาวหลง ว่านดอกสีทอง ผงไม้รักษ์ ผงไม้ขนุน
ว่านนางอกแตกนำมาผสมกันตั้งไฟเคี่ยวด้วยน้ำมันยอดชู้ประตูดิน เติม ผงสวาท เรื่อยๆ
จนน้ำมันเดือดนิดๆ ยกลง กดพิมพ์ขึ้นรูปผูกหุ่น ใส่ไหฝังดิน 3 ไห พันสายสินเสกปีกว่าๆ แมวกับหนูตัวเป็นๆ เดินมานอนเกลือกกลิ้ง
เล่นกันที่ตรงนั้น แต่ยังไม่พอครั้งนี้หลวงปู่ท่านรอจนกว่าแมวนอนให้หนูดูดนมจริงๆ
จึงออกให้บูชารวมเวลาเกือบ 3 ปีทีเดียว ขุดขึ้นมา
เอาออกมาเสกอีก 7 ราตรี
เด่นด้านเสี่ยงโชคทุกชนิด เอามาผสม
สีผึ้งนะหลงใหลให้แรงสุดๆ เมตตาเสน่ห์
และเสี่ยงดวงหลอมรวมเป็นหนึ่งไม่แรงให้มันรู้ พกติดตัว
ก่อนใช้หลับตา ว่า นะมะพะทะ
จะภะกะสะ ๓ จบ เพ่งจิตไปที่ตัวหนูดูดนมแมวแล้วอธิฐานใช้เถิด เกิดพลังดีนักแลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น