|
พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน
|
|
พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน
|
พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน
พระผงรูปเหมือน
พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จัดสร้างและออกที่วัดซับลำใย
จังหวัดลพบุรี โดย พระอาจารย์ตั้ว (พระอาจาย์สมุห์ภาสน์ มงฺคลสงฺโฆ)
ดำนเนินการจัดสร้างและพุทธาภิเษกพิธีมหาสมปรารถนา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ศ. 2542 เนื้อผงมหาพุทธคุณแก่ผงชมพูนุช
เพื่อนำรายได้มาสร้างศาลาและหล่อรูปเหมือนหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
เนื้อหาขององค์พระ
:
สามารถแบ่งได้เป็น
2 เนื้อหลักๆ คือ หากแก่ผงพุทธคุณพระเกจิ 350
คณาจารย์ เนื้อจะออกสีคล้ายผงธูป หากแก่ผงชมพูนุช เนื้อจะออกสีชมพู
สีขององค์พระไม่เสมอไปว่าจะต้องซีด หากแก่ผงชมพูนุชมากๆ เนื้อออกสีชมพูเข้ม
มีทั้งหนาและบาง มีทั้งใหญ่-เล็ก มีทั้งเนื้อละเอียด เนื้อหยาย
(เรื่องขนาดใหญ่-เล็ก เป็นการหดตัวของมวลสาร เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี
การหดตัวของแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน หากเนื้อละเอียดมากก็จะหดมากกว่าเนื้อหยาบ)
ด้านหลัง มีทั้งแบบโรยพลอยเสก ฝังปรกหนุมาน ฝังเม็ดยารูปเหมือน
จะพบเห็นเป็นส่วนน้อย ส่วยใหญ่จะเป็นหลังยันต์
มวลสารที่ใช้จัดสร้าง
:
ชนวนผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆกว่า
350 คณาจารย์และผงชมพูนุช
ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ครบตามจำนวนที่ว่าต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียว
พุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง,แคล้วคลาดปลอดภัย
ตัวอย่างมวลสารสำคัญต่างๆ
- ผงสมเด็จที่ชำรุดของหลวงปุ่นาค
(พระเทพสิทธินายก) วัดระฆัง
- ผงพุทธคุณ
108 จากอาจาย์ทั่วประเทศ ได้ทำพิธีที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อปี
พ.ศ.2509
- ผงจินดามณีของหลวงพ่อเพิ่ม
(พระพุทธวิธีนายก) วัดกลางบางแก้ว
- ผงมหาราช
ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม
- ผงตรีนิสิงเห
ผงปถมัง ของอดีตเจ้าอาวาสวัดปริยายก กทม.
- ผงอิทธิเจ
ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้มาจากอาจารย์ดุลย์ วัดไทยน้อย จ.นนทบุรี
- ผงของหลวงปุ่ใจ
วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม
- ผงโลกธาตุ
พลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มาเมื่อปี 2531
- ผงรัตนมาลาของหลวงพ่อสละ
เถรปญโญ วัดประดูทรงธรรม
- ผงอิจธิเจ
ของหลวงพ่อผล วัดคลองจันทร์ จ.อุทัยธานี ได้มาเมื่อปี 2524
- ผงตรีนิสิงเห
ของหลวงพ่อพรหม แห่งวัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2529
- ผงพุทธคุณ
หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2529
- ผงปถมัง
หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2524
- ผงไตรรัตน์
กับพงอาการ 32 ของหลวงพ่อชื่น วัดญาณเสน จ.อยุธยา
ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2523
- ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์
อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
- ผงโสฬสมงคล
ของหลวงพ่อถก จ.กาญจนบุรี ได้มาจากท่านอาจารย์นิวัฒน์ (พระมหานิวัฒน์ ญาณสมปนโน)
ได้เมื่อปี พ.ศ.2520
- ผงพรายกุมาร
หลวงพ่อทิม อิสรโก วัดระหารไร่ ได้เมื่อปี 2519
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกวย
ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท
ที่ได้เก็บสะสมไว้โดยท่านพระอาจารย์สมุห์ภาสน์เองครั้งยังเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อกวย
อยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 – พ.ศ.2520
- ผงนางดาราฯ
จ.นครศรีธรรมราช ได้จากท่านอาจารย์วัชรินทร์
- แร่ปรอททองคำ
ได้จากผู้เฒ่าที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2528
- ผงดินกากยายักษ์และผงว่าน
108จากจังหวัด นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2528
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อคง
ธมมโชโต วัดบางกระพ้อม
- ผงงากำจักกำจาย
ได้มาเมื่อปี พ.ศ. 2524 ณ ที่เขาใหญ่
- ผงมหาราชของหลวงพ่อหยิบ
วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา ได้จากพระอาจารย์หนู วัดเชิงท่า ลพบุรี
- ผงพราวดี
มีอายุเป็นพันปี ได้มาจากพระคำ เมื่อปี พ.ศ.2521
- ผงจากกรุวัดชนะสงคราม
กรุงเทพฯ
- ผงของหลวงพ่อบุญสิน
วัดปลายคลองพลิ้ว จ.จันทรบุรี ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2521
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อชม
วัดอินทาราม จ.ชัยนาท
- ผงเมาลี
ของหลวงพ่อโต วัดอินทรารามมหาวิหาร กรุงเทพฯ
- ผงของหลวงพ่อเปี่ยว
วัดเกาะหลัก ได้มาเมื่อปี พ.ศ. 2533
- ผงพุทธคุณหลวงพ่อฉาบ
วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาท
- ผงของหลวงปู่คำมี
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
- ผงของหลวงพ่อมี
วัดเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
- แป้งเสกของหลวงปู่บุดดา
วัดกลางเจริญศรี จ.สิงห์บุรี และผงยาเส้นของ หลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่
รวมทั้งผงจากวัดอื่นๆ เกจิอาจารย์ทั้งหลายจนครบ 350 อาจารย์
ผงชมพูนุช :
มีมวลสารสำคัญคือผงชมพูนุช
ซึ่งพระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก
เป็นผู้มอบผงชมพูนุชให้แก่อาจารย์ตั้ว
โดยตำรับผงชมพูนุชนี้สืบทอดมาจากปู่คำแห่งอำเภอสวรรคโลก กรุงสุโขทัย
ผงนี้มีคุณทางด้านมหาเสน่ห์และเมตตาอย่างแรงมากๆๆ กล่าวกันว่าหากป้ายผงนี้ที่ตัวของผู้ที่เราชอบหรือเราแอบรักคนใด
สามารถเข้าไปจับไม้จับมือได้เลยทีเดียว พระอาจารย์ ตั้ว
เคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าเมื่อผสมผงสำหรับสร้างพระโดยใส่ผงชมพูนุชลงไปด้วย
เมื่อสร้างพระเสร็จแล้วจึงล้างครกที่ใช้ผสมเนื้อ ต่อมาพบว่ามีแมวในวัดมากินน้ำที่เททิ้งไว้
ผลปรากฏต่อมาว่าจากเดิมที่จะถูกสุนัขในวัดไล่กวดจนต้องหลบๆซ่อนๆตัวเป็น ประจำ
ไม่กล้าออกมาเดินเพราะกลัวสุนัขอย่างมาก หลังจากแมวได้กินน้ำนั้นเข้าไปแล้ว
กลับกลายเป็นว่ามารักใคร่กัน เล่นหัวกันเหมือนกับว่าไม่เคยไล่กวดกันมาก่อนเลย
วาระพิธีพุทธาภิเษก
2วาระ
วาระที่ : 1
พิธีพุทธาภิเษกพิธีมหาสมปรารถนา
:
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. พ.ศ. 2543
โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมพิธี อาทิ
- หลวงปู่หมุน
ฐิตสีโล วัดบ้านจาน เป็นประธาน
- หลวงปู่ละมัย
สํานักสงฆ์สวนสมุนไพร
- หลวงปู่หงษ์
วัดเพชรบุรี
- หลวงพ่อรวย
วัดตะโก
- หลวงพ่อไสว
วัดปรีดาราม
- หลวงปู่ฤทธิ์
วัดชลประทานราชดำริ
- หลวงพ่อเพี้ยน
วัดเกริ่นกฐิน
- พระอาจารย์ไพรินทร์
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
- หลวงปู่หลุย
วัดราชโยธา
- หลวงปู่ตี๋
วัดหลวงราชาวาส
- หลวงปู่ทิม
วัดพระขาว
- หลวงพ่อเก๋
วัดปากน้ำ
- หลวงพ่อพูล
วัดไผ่ล้อม
- หลวงพ่อสมพงษ์
วัดใหม่ปิ่นเกลียว
- หลวงพ่อสิริ
วัดตาล
- หลวงพ่อกริช
วัดอรัญวาสี
- หลวงพ่อประสิทธิ์
วัดไทรน้อย
- พระอาจารย์วิชัย
วัดถ้ำผาจม เป็นต้น
วาระที่ : 2
- หลวงปู่หมุน
ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ได้เมตตาปลุกเสกให้เรื่อยมา เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม
จึงออกให้บูชาที่วัดซับลำใย ในปีพ.ศ.2543
พระอาจารย์
สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ผู้บุกเบิกสร้าง วัดซับลำไย
จนมีที่ดินของวัดเกือบร้อยไร่ สร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์
จนใกล้เสร็จ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลาย ๆ อย่าง และด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์
หลวงปู่หมุน ที่พระอาจารย์ให้ความเคารพมาก ในวันที่ 3 กันยายน 2543 ที่วัดซับลำใยจะได้ทำพิธีเททอง
เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่ง วัตถุมงคลอื่น
ๆ ในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน
ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคล รุ่น
มหาสมปรารถนาว่า
“
นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาตให้คุณ ได้สร้างวัตถุมงคลของฉัน
เพราะฉันเห็นแก่คุณสมุห์ฯ ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ
อีกอย่างคุณสมุห์ฯ อยู่เบื้องหลังสร้างพระให้คนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้ว
ถึงตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น ”
หลวงปู่หมุน
กล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำใย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์
ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า “หลวงปู่ขอรับ
กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ
ตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ “มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั่นแหละ”
< หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจ> และนี่คือเป็นที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน
ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่าง ๆ ในตัวท่านซึ่งก่อนจะถึงวันในพิธีทุกอย่างก็ราบเรียบทุกประการ
สมดั่งคำกล่าวของหลวงปู่หมุนทุกประการท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์จริงๆ
ครับผม
วาจาสิทธิ์อีกประการของหลวงปู่หมุน
ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ…”
ของๆ ฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชค หมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น
ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ
จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา
เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆ เท่า น้ำลาย
ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง
ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อ
ลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน ”
หลวงปู่หมุน
ท่านกำเนิดเมื่อ พศ. 2437– 2546 อายุยืนถึง 109 ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปี พศ. 2542 –
2545 จึงดูเหมือนเป็นพระเครื่องใหม่ อายุพระไม่เกิน 10 ปี ความนิยมในท้องตลาดพระเครื่อง ยังมีไม่มาก
มีเฉพาะกลุ่มลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธา แต่ก็มีแนวโน้มกลุ่มลูกศิษย์มากขึ้น
จากปากต่อปากของผู้บูชาพระเครื่องหลวงปู่ ที่พบประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
สาเหตุที่ท่านอนุญาติให้สร้างพระเครื่อง
ในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น เพราะยุคแรก ๆ นั้น ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่
ในการออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบ และธุดงค์ไปแดนพุทธภูมิ ในต่างประเทศ หลายสิบๆ ปี
จึงไม่ได้ทำวัตถุมงคลออกมาเพื่อให้ชาวบ้านบูชาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เป็นคนดีมีศีล
และรวมถึงหารายได้มาสร้างวัดซ่อมอุโบสถ บำรุงเสนาสนะให้ดำรงคงอยู่
สืบสานวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามในแผ่นดินสยาม วัดวาอาราม
เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้คนรุ่นหลัง ได้กระทำแต่ความดี ละความชั่ว
และขัดเกลาจิตใจคนรุ่นใหม่ ให้อ่อนโยน มีเมตตาธรรม สร้างสรรค์สังคม
หลีกเลี่ยงพฤติกรรม สร้างเสื่อมสังคม.. หากไม่มีวัด ก็ไม่มีพระ หากไม่มีพระ
คนรุ่นใหม่ก็ย้าย ศาสนาไปเป็นคริสต์จักรกันหมด แล้วพุทธศาสนาก็จางหายไปตามกาลเวลา.หลวงปู่หมุน
ท่านไม่ยึดติดลาภยศสมณศักดิ์ ท่านเป็นพระสงฆ์ สายพระป่าที่เคร่งกรรมฐานอย่างแท้จริง
ท่านใดที่มองหา พุทธคุณทางด้านอิทธิปาฎิหาริย์, แคล้วคลาด
อายุยืน, โชคลาภเสริมดวง และเมตตาบารมี
ที่สามารถสัมผัสพุทธคุณในพระเครื่องได้ เป็นความเชื้อส่วนบุคคล จนกว่าท่านจะได้..
คำอาราธนา
บูชาหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
ท่องนะโม 3 จบ แล้วภาวนาว่า
หลวงปู่หมุน
ฐิตสีโล มะ อะ อุ
หลวงปู่หมุน
ฐิตสีโล อุ อะ มะ