เหรียญรุ่นสุคโตหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

-->

เหรียญอายุยืนครึ่งองค์ทองสัตตะหน้ากากนวะ  

เหรียญรุ่นสุคโตหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

เนื่องในโอกาสวาระครบรอบ ๙๑ ปี พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ)วัดบ้านไร่ นำโดยคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ได้ทำการจัดสร้างวัตถุมงคลเบญจพุทธคุณ  เพื่อหลวงพ่อคูณ สานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณเพื่อพ่อหลวงของชาวไทย

คณะกรรมการวัดบ้านไร่ ได้ทำการจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึกงานบุญ "คูณ สุคโต" โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อหารายได้เพื่อสมทบทุนกับเหรียญรุ่น ๙๐ ปี นำเงินทูลเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่ตั้งจิตอธิษฐานลั่นวาจาไว้ และเพื่อหารายได้ร่วมสร้างลานบุญ "สุคโต" ณ อุทยานธรรมวัดบ้านไร่(วิหารกลางน้ำเทพวิทยาคม)

ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ หลังจากเคยทูลเกล้าฯ ถวายเงิน 72 ล้านบาท ไปแล้วเมื่อปี 2538 ซึ่งเป็นปีที่หลวงพ่อคูณมีอายุ 72 ปี ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ วัดบ้านไร่

วัตถุมงคลรุ่น "คูณ สุคโต" เป็นวัตถุมงคลที่น่าบูชาสะสมเป็นอย่างยิ่ง เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการพระเครื่อง สร้างที่นี่ แบบนี้ ที่แรกในเมืองไทย เงินเข้าวัดบ้านไร่ เต็มๆแบบไม่มีนายทุน เหรียญ”สร้างบารมี” และเหรียญ “อายุยืน” ของหลวงพ่อคูณ ออกวัดบ้านไร่ แท้ๆ

ได้รับความเมตตาจาก พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา วัดพายัพนครราชสีมา เป็นประธานจุดเทียนชัย ในพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่นคูณ สุคโต

 พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 30 มกราคม 2558 พระเกจิที่รับนิมนต์จากทั่วประเทศ ประมาณ 20 กว่ารูป เริ่มพิธีบวงสรวง 9.39 น. พันเอกทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ เป็นประธานพิธีบวงสรวงฝ่ายฆารวาส สุดยอดวัตถุมงคล จาก วัดบ้านไร่ ที่ต่อไปจะเป็นเหรียญหลักของ วัดบ้านไร่ ที่มีการเล่นหาสะสมกัน ในอนาคต

เหรียญครึ่งองค์หลังยันต์นารายณ์ทรงครุฑ หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน

-->

เหรียญครึ่งองค์หลังยันต์นารายณ์ทรงครุฑ หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน

เหรียญครึ่งองค์หลังยันต์นารายณ์ทรงครุฑ หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน อยุธยา รุ่นฉลองอายุ 90 ปี ปี 2549  ซึ่งเป็นเหรียญรูปเหมือนครึ่งองค์ ด้านหลังยันต์พระนารายณ์ทรงครุฑ  และทรงพญานาคราช

ตามตำรับตำราพิชัยสงครามแต่โบราณกล่าวว่า เป็นเครื่องรางชั้นสูง ที่สามารถครองผู้อื่นที่อยู่ร่วมกับเราได้อีกด้วย พระยันต์ พระคาถาและสายวิชานี้เป็นวิชาสำคัญของแม่ทัพนายกองสมัยโบราณเป็นที่เลื่องลือปรากฏนามอย่างยิ่งในสมัยอยุธยา อันเป็นสมัยที่มีสงครามมาประชิดบ้านเมืองเราบ่อยครั้งที่สุด

เหรียญพระนารายณ์ทรงครุฑนี้ จึงนับได้ว่าสร้างจากตำราวิชาของสมัยกรุงศรีอยุธยา มีคติความเชื่อมาจากพราหมณ์เก่าแก่ผสมผสานที่เชื่อกันว่า กษัตริย์เปรียบเสมือนเทพอวตารผู้สืบทอดเชื้อสายจากพระนารายณ์บางภาคลงมาปกครองบ้านเมืองให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข

ดังนั้น คนโบราณจึงเรียกกษัตริย์ว่าพระรามาธิบดี ซึ่งมาจาก "ราม" อันเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์นั่นเอง นอกจากสัญลักษณ์พระนารายณ์จะเป็นสัญลักษณ์อันสูงส่ง แทนองค์พระเจ้าอยู่หัวแล้ว เราจะยังสังเกตเห็นได้ว่า เครื่องหมายของทางราชการเอกสารทางราชการฉบับใดๆ ก็ตาม ก็ล้วนต้องมีเครื่องหมายพญาครุฑประทับอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น และตามหน้าบันพระอุโบสถเก่าๆ หน้าพระวิหาร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญต่างๆ มักจะมีรูปปั้นของพระนารายณ์ทรงครุฑอยู่ตามหน้าบันเสมอ

ด้วยเหตุนี้การสร้างเครื่องรางของขลัง ไม่ว่าเหรียญ หรือตะกรุดของหลวงพ่อมหาสวัสดิ์  ซึ่งเป็นเครื่องมงคลตามตำรับพระพิชัยสงคราม ก็จะเป็นกระบวนยันต์ตำรับพระนารายณ์ทั้งสิ้น รูปของพระนารายณ์ทรงครุฑนั้น เป็นคติตามแนวสายมายาศาสตร์อันล้ำลึกที่มีการน้อมนำเอาเดชอำนาจของพญาครุฑ ผู้เป็นเจ้าแห่งฟากฟ้ามาเสริมอำนาจแห่งองค์พระนารายณ์ให้ยิ่งใหญ่เป็นมหาเดช มหาอำนาจยิ่งๆ ขึ้นไป

ด้วยหลักของมายาศาสตร์นั้น สัญลักษณ์ของพระนารายณ์ทรงครุฑมีความหมายในตัวเองว่า เป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือฟ้านภากาศ ในขณะที่พญาครุฑนั้นทำการยึดนาคไว้ในอุ้งเท้า ซึ่งนาคในเป็นตัวแทนของอำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งพื้นดินและพื้นน้ำ ดังนั้น พระนารายณ์ที่ประทับอยู่เหนือครุฑยึดนาคก็หมายความว่า พระองค์ทรงเป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่เหนือฟ้าเหนือดินเหนือแผ่นน้ำนั้นเอง ด้วยเหตุนี้สัญลักษณ์ "พระนารายณ์ทรงครุฑมหาอำนาจปราบสามโลก" จึงเป็นพระมหายันต์อันสำคัญที่ทรงพลานุภาพทางสิริมงคลสูงสุด สำหรับผู้บูชาหากต้องการทำน้ำมนต์เพื่อปัดเป่าเสนียดจัญไรออกไปจากตัว หรือแก้อุบาทว์อันเกิดจากการต้องธรณีสารต่างๆ ทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นได้ดี

๑. เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด

๒. สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้

๓. เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน

๔. ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพันชาตรี

 ๕. เป็นเมตตามหานิยม

๖. นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้

๗. ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ

๘. สัตว์ร้าย งูเงี้ยวเขี้ยวขอสารพัด อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด 

เหรียญเสมา คูณสิบทิศ หลังยันต์ห้า หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นแรก

-->

เหรียญเสมา คูณสิบทิศ หลังยันต์ห้า หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่  รุ่นแรก

เหรียญเสมา ที่สืบสานรูปแบบจากสุดยอดเหรียญเสมาชั้นครูของเมืองไทย นั่นคือหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ สู่ เหรียญเสมา หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่น เสมา คูณสิบทิศ เหรียญเสมาคูณสิบทิศ หลวงพ่อคูณรุ่นนี้ ยอมรับว่าสวยมากเท่าที่เคยเห็นมา เพราะช่างทำพิมพ์ แกะพิมพ์ได้สวยและลงตัว เป็นเหรียญเสมา หลังยันต์ห้า รุ่นแรกของหลวงพ่อคูณ และเป็นรุ่นสุดท้าย ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน สร้างน้อย ซึ่งนักสะสมพระที่กำลังแสวงหารุ่นดังพิธีดีของหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นยุคปลายของท่าน  และในขณะผู้เขียนๆ บทความอยู่นี้  หลวงพ่อคูณ ก็ได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:45 น.

หลักฐานในเว็บ G-PRA ครับ

ผมขอเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเหรียญเสมาคูณสิบทิศ เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับคนรุ่นหลัง จะได้ไม่ต้องมาคอยถกเถียงกันว่าทันหลวงพ่อคูณหรือไม่ทัน  เพราะหลวงพ่อคูณมรณะภาพวันที่ 16 พฤษภาคม 2558  แต่ด้านหลังเหรียญเสมาคูณสิบทิศ ระบุวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๘  ผมรับรองว่าทันแน่นอน  เพราะในเว็บประมูลพระชื่อดัง “G-PRA” มีเหรียญรุ่นเสมาคูณสิบทิศหลวงพ่อคูณเปิดประมูลหลายรายการ  เหรียญที่ท่านเห็นในเว็บนี้  ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ผมประมูลได้มาจาก“G-PRA” ครับ ( ทั้งนี้ขออนุญาติเว็บมาสเตอร์“G-PRA” ที่นำภาพมาลงครับ) เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาประวัติสืบต่อไป

เหรียญรุ่นเสมาคูณสิบทิศหลวงพ่อคูณ ปลุกเสก  3 วาระ ครั้งแรก ปลุกเสกนำฤกษ์ชนวนมวลสาร ณ วัดบ้านไร่ ครั้งที่สอง ปลุกเสก ณ วัดละหารไร่ ระยอง และวาระที่ 3 หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อทอง วัดพระพุทธบาทเขายายหอม หลวงพ่อแช่ม สำนักตะคร้อ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย และหลวงปู่จื่อ วัดเขาตาเงาะ อุดมพร ร่วมปลุกเสก ณ วัดบ้านไร่ เมื่อ 31 มี.ค.2558

เหรียญรุ่นเสมาคูณสิบทิศหลวงพ่อคูณ ท่าน พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ประธานกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อนุญาตให้บรรจุประวัติการสร้างไว้ในหนังสือวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ และบรรจุพระไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดให้ได้ศึกษาต่อไป

จุดประสงค์ในการจัดสร้าง

เพื่อนำรายได้  ไปจัดสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2)