วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๓๑๐๔ เนื้อนวะโลหะ






พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๓๑๐๔ เนื้อนวะโลหะ

พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๓๑๐๔  เนื้อนวะโลหะ รวมกันได้ ๘  นี้เป็นเหรียญจารมือ เป็น ๑ ในจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ หลังยันต์ปั๊ม จารหน้าเพิ่ม สำหรับกรรมการทอดผ้าป่า  รุ่น "เหรียญที่ระลึกในงานฉลองกุฏิ พระครูปลัดวิชัยปัญญาทีโป" ซึ่งได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเลสข้อมือรุ่นมงคลเศรษฐี ๔๖ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นเหรียญปั๊มขึ้นรูป ด้านหน้าของเหรียญเป็นองค์พระพุทธชินราชส่วนด้านหลังเป็นยันต์ครูประกอบด้วยยันต์พุฒซ้อนและนะคงกระพันชาตรี  ใครที่ชื่นชอบสายบู๊ไม่ควรพลาด  ที่จะแสวงหามีไว้ครอบครอง
พระพุทธชินราช ด้านหน้าสองภาพนี้ถ่ายมาจากเหรียญเดียวกันนะครับ  แต่อาจจะตั้งกล้องต่างมุมกัน  ผลที่ได้อย่างที่เห็น

















วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๑๖๘ เนื้อนวะโลหะ




พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๑๖๘ เนื้อนวะโลหะ

พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๑๖๘ เนื้อนวะโลหะ
เลขมหามงคล ๑๖๘ ในปัจจุบันคนไทยนั้นมีความเชื่อเรื่องเลขมหามงคล เป็นเลขนำโชค จึงเป็นที่สนใจกันอย่างแพร่หลาย และมีการแสวงหาเลขมหามงคลนี้ ไม่ว่าจะเป็นวงการทะเบียนรถ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งวงการนักเล่นพระ สะสมพระ เดี๋ยวนี้ก็นิยมกันอย่างมาก และซื้อขายกันในราคาแพงเป็นพิเศษ เป็นเลขนำโชคที่จะสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย แก่ผู้ที่มีไว้ครอบครอง
ความหมายเลขมหามงคล ๑๖๘ ของไทย
เลข 1              ความหมาย         หนึ่งเดียว, ทุกวัน ,ที่หนึ่งไม่มีสอง
เลข 6              ความหมาย         ให้ความปลอดภัยในการเดินทาง
เลข 8              ความหมาย         มีโชค มีลาภ , ร่ำรวยเงินทอง
ความหมายเลขมหามงคล 168 ของจีน
168 (ย่าห์-โหล่ว-ฟัด)                    ความหมาย         รวยทางเดียว, รวยทั้งชาติ
1668 (ย่าห์-โหล่ว-โหล่ว-ฟัด)          ความหมาย         รวยทางเดียว, รวยทั้งชาติ
1688 (ย่าห์-โหล่ว-ฟัด-ฟัด)             ความหมาย         รวยทางเดียว, รวยทั้งชาติ

พระพุทธชินราช พระครูปลัดวิชัย หมายเลขมหามงคล ๑๖๘  เนื้อนวะโลหะ นี้เป็นเหรียญจารมือ เป็น ๑ ในจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ หลังยันต์ปั๊ม จารหน้าเพิ่ม สำหรับกรรมการทอดผ้าป่า  รุ่น "เหรียญที่ระลึกในงานฉลองกุฏิ พระครูปลัดวิชัยปัญญาทีโป" ซึ่งได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเลสข้อมือรุ่นมงคลเศรษฐี ๔๖ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๘ เป็นเหรียญปั๊มขึ้นรูป ด้านหน้าของเหรียญเป็นองค์พระพุทธชินราชส่วนด้านหลังเป็นยันต์ครูประกอบด้วยยันต์พุฒซ้อนและนะคงกระพันชาตรี  ใครที่ชื่นชอบสายบู๊ไม่ควรพลาด  ที่จะแสวงหามีไว้ครอบครอง
พระพุทธชินราชรอยตัดขอบเหรียญพระพุทธชินราชเนื้อนวะโลหะ


ขอขอบคุณ  คุณTOTO จากซัมมิทพระเครื่อง ที่ให้ยืมพระเพื่อถ่ายภาพ


วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระซุ้มกอเงินล้าน พระครูปลัดวิชัย วัดสันติวิหาร





พระซุ้มกอเงินล้าน พระครูปลัดวิชัย วัดสันติวิหาร
เปิดจองแล้ว พระซุ้มกอเงินล้านรุ่นแรกหรือ "ซุ้มกอบายน"  ที่สุดแห่งมนตราพระเวทย์สายเขมร ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การสร้างพระเนื้อผง-ฝังตะกรุดจารมือ ของพระครูปลัดวิชัย ปัญญาทีโป วัดสันติวิหาร จ.สระบุรี รุ่น พระซุ้มกอเงินล้าน รุ่นกฐิน 58 จารยันต์ นะคงกระพันชาตรี หรือเขมรเรียกว่า ยันต์นะคงทน แต่คราวนี้เพิ่มจารล้อมด้วยอักขระคาถาหัวใจโภคทรัพย์ เรียกเงินเรียกทอง บันดาลโชคลาภ ซึ่งท่านพระครูตั้งใจทำมากจริงๆ  ปลุกเสกเดี่ยวอภิมหามวลสาร เขียนยันต์ลบผงเต็มสูตรตามตำรับโบราณจารย์สายเขมร  คลุกเคล้ามวลสารเอง กดพิมพ์นำฤกษ์เอง รุ่นนี้ครบเครื่องทุกด้าน
 เหนืออื่นใด พระครูปลัดวิชัย เขียนผงลบผงตำรับเขมรสุดยอดขลังเป็นครั้งแรกของท่าน นั่งปลุกเสกผงทั้งหมดนานกว่า 1 ชั่วโมง แล้วนำไปผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นอาจารย์กดพิมพ์นำฤกษ์จำนวน 300 องค์ นั่งตอกโค๊ต-ตัวเลขด้วยตัวท่านเอง กำหนดพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 30 ต.ค.2558 ข่าวเบื้องต้นทราบว่าพระครูปลัดวิชัย จะปลุกเสกเดี่ยว สามารถรับพระได้ในงานกฐิน วันที่ 31 ต.ค.2558 เป็นต้นไป
มวลสารซุ้มกอเงินล้านบางส่วน ที่ อ.วิชัย นำมาจากเขมร บางชนิดหายาก ได้แก่
1.ว่าน108 นครวัด-นครธมเต็มสูตร
2.ว่านกาหลงเขมร
3.ข้าวสารหินพันปีนครวัด-นครธม
4.ดินศิลาแลงนครวัด-นครธม
5.ผงไม้กฤษณาเขมร
6.กาฝากมักกะลีผงเขมร
7.กาฝากโสนเขมร
8.กาฝากมะขามเขมร
9.กาฝากรักซ้อนเขมร
10.ผงผ้ายันต์-ผงยันต์จากแท่นบูชานครวัด-นครธม
11.ผงเสมาโบสถ์พันปีนครวัด-นครธม
12.ผงพุทธคุณของพระครูปลัดวิชัย (ลบผงเองเต็มสูตร)
13.เกศาพระครูปลัดวิชัย
14.ผงเถ้าอัฐิพระอาจารย์เป่าเชียน อาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้พระครูปลัดวิชัย ตั้งแต่วัยเด็กจนเติบใหญ่ อ.วิชัย นับถือมากๆ
15.กาฝากมะยมเขมร
16.กาฝากมะรุมเขมร
17.กาฝากรักซ่อนหาเขมร
18.ดิน108 ป่าช้าเขมร
19.ผงขี้ธูปนครวัด-นครธม
นอกจากนี้ยังมีเหล็กไหลพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ผงเก่า ผงพุทธคุณ จากวัดทั่วประเทศ ผงดินปราบหญ้าไม่งอก ดินพอกหางหมู ผงคัมภีร์โบราณ ผงปถมังเขมร ผงหลวงปู่ทวด 2497 นับได้ว่ามวลสารมากที่สุดรุ่นหนึ่ง
จำนวนจัดสร้างมีดังต่อไปนี้
-พระซุ้มกอเงินล้านเนื้อนำฤกษ์คลุกรักฝังตะกรุด 3 กษัตริย์ (ทองคำ เงิน นาก ยันต์จารมือ) จัดสร้าง 300 องค์ ราคาบูชาองค์ละ 20,000 บาท
-พระซุ้มกอเงินล้านชุดกฐิน 1 ชุดมี 3 องค์  ตะกรุดเงิน, สัตตะโลหะ, ทองแดง สร้างจำนวน 2558 ชุด ทำบุญจองกฐินกองละ 2,500 บาทได้พระ 1 ชุด
-พระซุ้มกอเงินล้านฝังตะกรุดเงินสร้าง 10,000 องค์ ทำบุญองค์ละ2,000 บาท
-พระซุ้มกอเงินล้านฝังตะกรุดสัตตโลหะสร้าง 20,000 องค์ ทำบุญองค์ละ500 บาท

-พระซุ้มกอเงินล้านฝังตะกรุดทองแดงสร้าง 40,000 องค์ ทำบุญองค์ละ 200 บาท


วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เหรียญเสมาพระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป หลังยันต์มหาอุตม์จารมือ




เหรียญเสมาพระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป หลังยันต์มหาอุตม์จารมือ
เหรียญเสมาพระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป หลังยันต์มหาอุตม์จารมือ

เหรียญเสมาพระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป หลังยันต์มหาอุตม์จารมือ
พระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป วัดสันติวิหาร ได้สร้างเหรียญเสมาหลังยันต์มหาอุตม์ หยุดลูกปืนและที่สำคัญจารมือเต็มสูตร น้อยนักที่จะมีเกจิอาจาร์ย  ที่จะมานั่งชักยันต์ด้วยวิธีการจารมือทุกเหรียญ รวมทั้งรายการตะกรุด ๓ กษัตริย์, ผ้ายันต์คงกระพัน ๓๙ ยันต์ ๓๙ คาถา ปี พ.ศ.๒๕๕๗ ให้บูชาในงานทอดกฐินสามัคคีและยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ในวันที่ ๒๖ ต.ค.๒๕๕๗
วัตถุมงคลตำนานจารมือ รุ่นสุดท้าย "หลังยันต์จารมือ" ตำหรับสายวิชานครวัด-นครธม ท่านบอกว่า อาตมาจะไม่ทำเหรียญแล้ว จารทุกคืนปวดตา บางวันตื่นเช้าลืมตาแทบไม่ไหว รุ่นนี้จารตลอดเข้าพรรษา ๓ เดือนเต็มเลยวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนทรัพย์ซ่อมแซมพระอุโบสถ ย้ายหอระฆัง และทำกุฏิที่พักสงฆ์ใหม่ ที่เหลือจะใช้เป็นทุนอาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในวัดสันติวิหาร เพราะยังขาดแคลนอีกมาก

พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดสันติวิหาร ต.โคกตูม อ.หนองแค จ.สระบุรี ในวันที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๕๗ โดยเกจิชุดเดิมที่ปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก ร่วมอธิษฐานจิตเพิ่มความขลังรวม ๑๔ รูป มีพระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน หลวงพ่อ รวย วัดตะโก หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา หลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวราราม (บ้านจะเนียง) หลวงพ่อหนูแดง วัดตลาดนิคม หลวงพ่อนพวรรณ วัดเสนานิมิตร หลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแตงใต้ พระสุธีวราภรณ์ วัดพระพุทธฉาย หลวงพ่อศักดิ์ วัดหนองแซงใหญ่ และพระครูปลัดวิชัย ปญฺญาทีโป


เหรียญเจริญพร อายุวัฒนะมงคล 96 ปี หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ




เหรียญเจริญพร อายุวัฒนะมงคล 96 ปี หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
เหรียญเจริญพร อายุวัฒนะมงคล 96 ปี หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
เหรียญเจริญพร อายุวัฒนะมงคล 96 ปี หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ จัดเป็น เหรียญยันต์เกราะเพชร "รุ่นแรก" ของท่านที่นำยันต์เกราะเพชรมาไว้ด้านหลังเหรียญเป็นครั้งแรก ยันต์เกาะเพชรที่หลวงปู่เมตตานำลงมาไว้บนเหรียญเจริญพร 96 นี้ นับเป็นครั้งแรกจริงๆ และหลวงปู่ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว...ซึ่งอนาคตในวันข้างหน้าอาจเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์แก่ผู้ที่มีไว้บูชา และเป็นที่ต้องการของเซียนพระ หรืออาจเป็นเหรียญยอดนิยมและเป็นที่เสาะหากันก็อาจเป็นได้...จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เก็บไว้บูชา...ได้ทั้งบุญได้ทั้งมงคลดีๆด้วยครับ
เหรียญเจริญพร อายุวัฒนะมงคล 96 ปี หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

ยันต์เกราะเพชร
สำหรับยันต์เกราะเพชร คือเป็นคาถา อิติปิ โส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโนสุคโต โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ เรียกกันว่า ห้องพระพุทธคุณ แต่เขียน ลงมาอย่างลงอย่างหนังสือเจ๊ก เขียนลง ไม่เขียนตามบรรทัด เขียนลงมา 7 คำแล้วก็ไปขึ้นต้นใหม่เรียงกันไป ก็ว่า อิระชาคะตะระสา ติหังจโตโรถินัง นี่เรียกว่า อิติโส 8 ทิศ อย่างนี้แหละ แล้วก็ชักเป็นยันต์ เรียกสูตรตามเส้นที่เขาชักไป
ใครมียันต์เกาะเพชรไว้บูชาครูบาอาจารย์กล่าวเอาไว้ว่า...
๑. จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
๒. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
๓. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด

๔. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง




พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน



พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน

พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน

พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน
พระผงรูปเหมือน พิมพ์นั่งเมฆ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จัดสร้างและออกที่วัดซับลำใย จังหวัดลพบุรี โดย พระอาจารย์ตั้ว (พระอาจาย์สมุห์ภาสน์ มงฺคลสงฺโฆ) ดำนเนินการจัดสร้างและพุทธาภิเษกพิธีมหาสมปรารถนา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ศ. 2542 เนื้อผงมหาพุทธคุณแก่ผงชมพูนุช เพื่อนำรายได้มาสร้างศาลาและหล่อรูปเหมือนหลวงปู่หมุน  ฐิตสีโล
เนื้อหาขององค์พระ :
สามารถแบ่งได้เป็น 2 เนื้อหลักๆ คือ หากแก่ผงพุทธคุณพระเกจิ 350 คณาจารย์ เนื้อจะออกสีคล้ายผงธูป หากแก่ผงชมพูนุช เนื้อจะออกสีชมพู สีขององค์พระไม่เสมอไปว่าจะต้องซีด หากแก่ผงชมพูนุชมากๆ เนื้อออกสีชมพูเข้ม มีทั้งหนาและบาง มีทั้งใหญ่-เล็ก มีทั้งเนื้อละเอียด เนื้อหยาย (เรื่องขนาดใหญ่-เล็ก เป็นการหดตัวของมวลสาร เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี การหดตัวของแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน หากเนื้อละเอียดมากก็จะหดมากกว่าเนื้อหยาบ) ด้านหลัง มีทั้งแบบโรยพลอยเสก ฝังปรกหนุมาน ฝังเม็ดยารูปเหมือน จะพบเห็นเป็นส่วนน้อย ส่วยใหญ่จะเป็นหลังยันต์
มวลสารที่ใช้จัดสร้าง :
ชนวนผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆกว่า 350 คณาจารย์และผงชมพูนุช ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ครบตามจำนวนที่ว่าต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียว พุทธคุณโดดเด่นด้านโชคลาภ,เงินทอง,แคล้วคลาดปลอดภัย
ตัวอย่างมวลสารสำคัญต่างๆ
- ผงสมเด็จที่ชำรุดของหลวงปุ่นาค (พระเทพสิทธินายก) วัดระฆัง
- ผงพุทธคุณ 108 จากอาจาย์ทั่วประเทศ ได้ทำพิธีที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อปี พ.ศ.2509
- ผงจินดามณีของหลวงพ่อเพิ่ม (พระพุทธวิธีนายก) วัดกลางบางแก้ว
- ผงมหาราช ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม
- ผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ของอดีตเจ้าอาวาสวัดปริยายก กทม.
- ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้มาจากอาจารย์ดุลย์ วัดไทยน้อย จ.นนทบุรี
- ผงของหลวงปุ่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม
- ผงโลกธาตุ พลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มาเมื่อปี 2531
- ผงรัตนมาลาของหลวงพ่อสละ เถรปญโญ วัดประดูทรงธรรม
- ผงอิจธิเจ ของหลวงพ่อผล วัดคลองจันทร์ จ.อุทัยธานี ได้มาเมื่อปี 2524
- ผงตรีนิสิงเห ของหลวงพ่อพรหม แห่งวัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2529
- ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2529
- ผงปถมัง หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2524
- ผงไตรรัตน์ กับพงอาการ 32 ของหลวงพ่อชื่น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2523
- ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
- ผงโสฬสมงคล ของหลวงพ่อถก จ.กาญจนบุรี ได้มาจากท่านอาจารย์นิวัฒน์ (พระมหานิวัฒน์ ญาณสมปนโน) ได้เมื่อปี พ.ศ.2520
- ผงพรายกุมาร หลวงพ่อทิม อิสรโก วัดระหารไร่ ได้เมื่อปี 2519
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ที่ได้เก็บสะสมไว้โดยท่านพระอาจารย์สมุห์ภาสน์เองครั้งยังเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อกวย อยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 – พ.ศ.2520
- ผงนางดาราฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้จากท่านอาจารย์วัชรินทร์
- แร่ปรอททองคำ ได้จากผู้เฒ่าที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2528
- ผงดินกากยายักษ์และผงว่าน 108จากจังหวัด นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2528
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อคง ธมมโชโต วัดบางกระพ้อม
- ผงงากำจักกำจาย ได้มาเมื่อปี พ.ศ. 2524 ณ ที่เขาใหญ่
- ผงมหาราชของหลวงพ่อหยิบ วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา ได้จากพระอาจารย์หนู วัดเชิงท่า ลพบุรี
- ผงพราวดี มีอายุเป็นพันปี ได้มาจากพระคำ เมื่อปี พ.ศ.2521
- ผงจากกรุวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
- ผงของหลวงพ่อบุญสิน วัดปลายคลองพลิ้ว จ.จันทรบุรี ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2521
- ผงพุทธคุณของหลวงพ่อชม วัดอินทาราม จ.ชัยนาท
- ผงเมาลี ของหลวงพ่อโต วัดอินทรารามมหาวิหาร กรุงเทพฯ
- ผงของหลวงพ่อเปี่ยว วัดเกาะหลัก ได้มาเมื่อปี พ.ศ. 2533
- ผงพุทธคุณหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาท
- ผงของหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
- ผงของหลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
- แป้งเสกของหลวงปู่บุดดา วัดกลางเจริญศรี จ.สิงห์บุรี และผงยาเส้นของ หลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ รวมทั้งผงจากวัดอื่นๆ เกจิอาจารย์ทั้งหลายจนครบ 350 อาจารย์
ผงชมพูนุช :
มีมวลสารสำคัญคือผงชมพูนุช ซึ่งพระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้มอบผงชมพูนุชให้แก่อาจารย์ตั้ว โดยตำรับผงชมพูนุชนี้สืบทอดมาจากปู่คำแห่งอำเภอสวรรคโลก กรุงสุโขทัย ผงนี้มีคุณทางด้านมหาเสน่ห์และเมตตาอย่างแรงมากๆๆ กล่าวกันว่าหากป้ายผงนี้ที่ตัวของผู้ที่เราชอบหรือเราแอบรักคนใด สามารถเข้าไปจับไม้จับมือได้เลยทีเดียว พระอาจารย์ ตั้ว เคยเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าเมื่อผสมผงสำหรับสร้างพระโดยใส่ผงชมพูนุชลงไปด้วย เมื่อสร้างพระเสร็จแล้วจึงล้างครกที่ใช้ผสมเนื้อ ต่อมาพบว่ามีแมวในวัดมากินน้ำที่เททิ้งไว้ ผลปรากฏต่อมาว่าจากเดิมที่จะถูกสุนัขในวัดไล่กวดจนต้องหลบๆซ่อนๆตัวเป็น ประจำ ไม่กล้าออกมาเดินเพราะกลัวสุนัขอย่างมาก หลังจากแมวได้กินน้ำนั้นเข้าไปแล้ว กลับกลายเป็นว่ามารักใคร่กัน เล่นหัวกันเหมือนกับว่าไม่เคยไล่กวดกันมาก่อนเลย

วาระพิธีพุทธาภิเษก 2วาระ
วาระที่ : 1
พิธีพุทธาภิเษกพิธีมหาสมปรารถนา :
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. พ.ศ. 2543 โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมพิธี อาทิ
- หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน เป็นประธาน
- หลวงปู่ละมัย สํานักสงฆ์สวนสมุนไพร
- หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
- หลวงพ่อรวย วัดตะโก
- หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
- หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ
- หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
- พระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
- หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา
- หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
- หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
- หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
- หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
- หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว
- หลวงพ่อสิริ วัดตาล
- หลวงพ่อกริช วัดอรัญวาสี
- หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย
- พระอาจารย์วิชัย วัดถ้ำผาจม เป็นต้น
วาระที่ : 2
- หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ได้เมตตาปลุกเสกให้เรื่อยมา เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม จึงออกให้บูชาที่วัดซับลำใย ในปีพ.ศ.2543
พระอาจารย์ สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ผู้บุกเบิกสร้าง วัดซับลำไย จนมีที่ดินของวัดเกือบร้อยไร่ สร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลาย ๆ อย่าง และด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ หลวงปู่หมุน ที่พระอาจารย์ให้ความเคารพมาก ในวันที่ 3 กันยายน 2543 ที่วัดซับลำใยจะได้ทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่ง วัตถุมงคลอื่น ๆ ในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคล รุ่น มหาสมปรารถนาว่า
นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาตให้คุณ ได้สร้างวัตถุมงคลของฉัน เพราะฉันเห็นแก่คุณสมุห์ฯ ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ อีกอย่างคุณสมุห์ฯ อยู่เบื้องหลังสร้างพระให้คนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้ว ถึงตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น
หลวงปู่หมุน กล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำใย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า หลวงปู่ขอรับ กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั่นแหละ” < หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจ> และนี่คือเป็นที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่าง ๆ ในตัวท่านซึ่งก่อนจะถึงวันในพิธีทุกอย่างก็ราบเรียบทุกประการ สมดั่งคำกล่าวของหลวงปู่หมุนทุกประการท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์จริงๆ ครับผม
วาจาสิทธิ์อีกประการของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ…” ของๆ ฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชค หมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆ เท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อ ลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน
หลวงปู่หมุน ท่านกำเนิดเมื่อ พศ. 2437– 2546 อายุยืนถึง 109 ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปี พศ. 2542 – 2545 จึงดูเหมือนเป็นพระเครื่องใหม่ อายุพระไม่เกิน 10 ปี ความนิยมในท้องตลาดพระเครื่อง ยังมีไม่มาก มีเฉพาะกลุ่มลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธา แต่ก็มีแนวโน้มกลุ่มลูกศิษย์มากขึ้น จากปากต่อปากของผู้บูชาพระเครื่องหลวงปู่ ที่พบประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
สาเหตุที่ท่านอนุญาติให้สร้างพระเครื่อง ในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น เพราะยุคแรก ๆ นั้น ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบ และธุดงค์ไปแดนพุทธภูมิ ในต่างประเทศ หลายสิบๆ ปี จึงไม่ได้ทำวัตถุมงคลออกมาเพื่อให้ชาวบ้านบูชาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เป็นคนดีมีศีล และรวมถึงหารายได้มาสร้างวัดซ่อมอุโบสถ บำรุงเสนาสนะให้ดำรงคงอยู่ สืบสานวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามในแผ่นดินสยาม วัดวาอาราม เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้คนรุ่นหลัง ได้กระทำแต่ความดี ละความชั่ว และขัดเกลาจิตใจคนรุ่นใหม่ ให้อ่อนโยน มีเมตตาธรรม สร้างสรรค์สังคม หลีกเลี่ยงพฤติกรรม สร้างเสื่อมสังคม.. หากไม่มีวัด ก็ไม่มีพระ หากไม่มีพระ คนรุ่นใหม่ก็ย้าย ศาสนาไปเป็นคริสต์จักรกันหมด แล้วพุทธศาสนาก็จางหายไปตามกาลเวลา.หลวงปู่หมุน ท่านไม่ยึดติดลาภยศสมณศักดิ์ ท่านเป็นพระสงฆ์ สายพระป่าที่เคร่งกรรมฐานอย่างแท้จริง ท่านใดที่มองหา พุทธคุณทางด้านอิทธิปาฎิหาริย์, แคล้วคลาด อายุยืน, โชคลาภเสริมดวง และเมตตาบารมี ที่สามารถสัมผัสพุทธคุณในพระเครื่องได้ เป็นความเชื้อส่วนบุคคล จนกว่าท่านจะได้..
คำอาราธนา บูชาหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
ท่องนะโม 3 จบ แล้วภาวนาว่า
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล มะ อะ อุ

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อุ อะ มะ